“สมคิด” รักษาการ รมว.ศธ. มอบนโยบายการทำงาน ย้ำกระทรวงศึกษาสำคัญที่สุด


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบายการทำงานแก่ผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ เน้นย้ำว่ากระทรวงศึกษาสำคัญที่สุด เพราะเป็นหน่วยงานสร้างคนสร้างชาติ พร้อมฝากดูเเลเด็กยากจนเเละพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการ กพฐ. เลขาธิการ สอศ. เลขาธิการ กอศ. และข้าราชการประจำกระทรวง เข้าร่วมต้อนรับและรับฟังการมอบนโยบาย ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กล่าวว่า วันนี้ได้มาเยี่ยมกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะที่เป็นรักษาการ รมว.ศธ. จนกว่าจะมีรัฐมนตรีคนใหม่ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างมาก เพราะกระทรวงนี้เป็นกระทรวงที่สำคัญในการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพในอนาคต ซึ่งประเทศไทยจะมีอนาคตที่ดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการผลิตเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในวันข้างหน้า ในโอกาสนี้ตนได้แสดงความคิดเห็นร่วมกับทางผู้บริหารของกระทรวง และพูดถึงการพัฒนาประเทศในอนาคตข้างหน้า ว่าเราต้องการตัวแทนประเภทไหน ซึ่งการพัฒนาบุคลากรไม่ใช่เพียงแค่สร้างทักษะความสามารถในการประกอบอาชีพ แต่ต้องสร้างบุคลิกค่านิยมที่ถูกต้องให้แก่เด็กด้วย สังคมจึงจะอยู่ได้ เด็กถึงจะมีภูมิต้านทานในการดำรงชีวิตในอนาคตข้างหน้าได้ และยังได้พูดถึงการเชื่อมต่อการศึกษาในระดับอุดมศึกษาว่า เราจะไม่สามารถผลิตบุคลากรในระดับมหาวิทยาลัยได้เลย หากว่าบุคลากรในระดับพื้นฐานไม่สามารถสอดรับกับทิศทางการศึกษาในระดับที่สูงกว่าได้ รวมถึงอาชีวศึกษาก็เป็นการศึกษาที่สำคัญมากของประเทศไทย ดังนั้นการศึกษาของไทยในอนาคตไม่จำเป็นว่าทุกคนจะต้องมุ่งไปสู่ปริญญาตรีหรือปริญญาโท บุคคลใดต้องการมีวิชาชีพ หรือต้องการทำธุรกิจด้วยตัวเอง ก็สามารถศึกษาทางด้านอาชีวะได้ ดังนั้นการพัฒนาคุณภาพอาชีวศึกษาและการพัฒนาหลักสูตรต่างๆ นั้น ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น

“สำหรับการทำสิ่งเหล่านี้ให้ดีในอนาคต กระทรวงศึกษาธิการต้องมีแนวร่วม นั่นก็คือเอกชนหรือสถาบันที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศที่ต้องเข้ามาช่วยให้คำแนะนำ เราเองจะต้องรู้จักการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน ทำให้การศึกษาเข้าถึงชนบทเพื่อให้คนยากไร้ที่อยู่ในพื้นที่กันดารห่างไกลสามารถเข้าถึงข้อมูลและการศึกษาที่เป็นประโยชน์ได้ ซึ่งวิชาชีพบางอย่างไม่จำเป็นต้องมีอาจารย์สอนกับตัว เช่น การเกษตรมีวิธีการปลูกอย่างไร จะมีคำตอบที่ชัดเจนบรรจุอยู่ในเทคโนโลยีที่เข้าไปถึงชาวบ้านได้ ซึ่งแต่ละหมู่บ้านก็มีอินเทอร์เน็ตเข้าถึงอยู่แล้ว ดังนั้นต้องนำมาประยุกต์กับสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เข้าถึงชาวบ้านได้ ขณะเดียวกัน ในด้านการพัฒนาบุคลากรครูก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ตนได้แนะนำว่าจะพัฒนาครูอย่างไร หรือทำอย่างไรที่จะเพิ่มขีดความสามารถ และสภาพความเป็นอยู่ของครูได้ สุดท้ายคือการเน้นเรื่อง Big Data เพราะข้อมูลข่าวสารคือสิ่งสำคัญมาก หากกระทรวงศึกษาธิการไม่มีข้อมูลอะไรเลย นโยบายการศึกษาคงทำได้แต่เพียงการเดาแล้วทำ ซึ่งจะออกมาผิดพลาดหรือถูกต้องไม่อาจทราบได้ จึงเป็นเรื่องน่ายินดีว่าได้เริ่มมีการทำขึ้นแล้ว ตนจึงได้ให้กำลังใจคนทำงานพร้อมกับให้แนวความคิดไป และหวังที่จะเห็นทั้ง 5 องค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ดำเนินไปเป็นเส้นขนาน แต่ให้ดำเนินมาบรรจบกัน และสามัคคีร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่” นายสมคิด กล่าว

บรรพต ข่าว/ชุติมา ภาพ