พิธีวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติของเขตพัฒนาคุณภาพการศึกษาชำนิ

เขตพัฒนาคุณภาพการศึกษาชำนิ พิธีวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย และเป็นการแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ ณ สนามที่ว่าการอำเภอชำนิ อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์

วันจันทร์ที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เขตพัฒนาคุณภาพการศึกษาชำนิ จัดพิธีวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย และเป็นการแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ ณ สนามที่ว่าการอำเภอชำนิ อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมากิจกรรมลูกเสือของกองลูกเสือโรงเรียนในสังกัดเขตพัฒนาคุณภาพการศึกษาชำนิทุกโรงเรียนได้มีความเจริญก้าวหน้าตามลำดับ ดังนี้ การจัดการเรียนรู้กิจกรรมลูกเสือให้เป็นไปตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ กิจกรรมเดินทางไกลและเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ กิจกรรมลูกเสือจิตอาสา ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรเกี่ยวกับผู้กำกับลูกเสือระดับต่าง ๆ โดยมี นายโชคชัย สว่างรัตน์ กรรมการสำนักงานลูกเสือจังหวัดบุรีรัมย์ (นายอำเภอชำนิ) เป็นประธาน

นายโชคชัย สว่างรัตน์ กรรมการสำนักงานลูกเสือจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า วันที่ ๑ กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาวชิราวุธพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนินลูกเสือไทย ทรงมีพระราชประสงค์เพื่อบ่มเพาะนิสัย เยาวชนของชาติให้เป็นพลเมืองดีตามจารีตประเพณีบ้านเมืองตามอุดมการณ์ของลูกเสือ ดังนี้ ให้เป็นผู้ที่มีวินัย รู้จักการสังเกต จดจำและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ มีระเบียบวินัยและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักบำเพ็ญตน เพื่อสาธารณะประโยชน์ รู้จักการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ความเหมาะสม และเป็นที่รู้จักรักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคงของประเทศชาติ ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับลัทธิการเมืองใด ๆ

พี่น้องลูกเสือที่มารวมพลังในวันนี้ เพื่อสวนสนามและทบทวนคำปฏิญาณ ซึ่งเป็นการแสดงถึงความพร้อมเพรียง ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของเหล่าพี่น้องลูกเสือเป็นอย่างดียิ่ง นับว่าเป็นพลังอันยิ่งใหญ่และถาวรสืบไป ควรค่าจะดำรงไว้เป็นสถาบันอันยึดมั่นของประเทศชาติ สถาบันดังกล่าวก็คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ (มณีรัตน์ ปักโคทานัง : ภาพ)