สพฐ. จัดการประชุมเพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้เรียนด้วยการเรียนอย่างมีความสุข “เรียนที่ชอบ อาชีพที่ใช่ ได้ความสุข”

วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในการเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการชี้แจงแนวทางการส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพ และคุณลักษณะของผู้เรียนด้วยการเรียนรู้อย่างมีความสุข “เรียนที่ชอบ อาชีพที่ใช่ ได้ความสุข” โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นผู้กล่าวรายงานในการเปิดการประชุม พร้อมด้วย นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. นายสุรินทร์ มั่นประสงค์ ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ทุกเขต 62 เขต ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการฯ หัวหน้างานหลักสูตร ของสถานศึกษากลุ่มเป้าหมาย 124 โรงเรียน ครู และนักเรียน ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ระหว่างวันที่ 25 – 27 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรม เดอะ รอยัล ริเวอร์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร และ โรงเรียนโพธิสารพิทยากร กรุงเทพมหานคร

.

ตามที่ สพฐ. ได้จัดทำแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ.2566 – 2570) ภายใต้นโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีวิสัยทัศน์ คือ “ผู้เรียนมีความรู้ และสมรรถนะที่จำเป็น มีความสุข และมีเป้าหมาย ได้รับการพัฒนาอย่างมีคุณภาพเพื่อพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ” ซึ่งประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ คือ

กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความปลอดภัยทุกรูปแบบ

กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับประชากรวัยเรียนทุกคน

กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21

กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา

โดยโครงการส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพและคุณลักษณะของผู้เรียนด้วยการเรียนรู้อย่างมีความสุข “เรียนที่ชอบ อาชีพที่ใช่ ได้ความสุข” มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการดำเนินการของสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพและคุณลักษณะของผู้เรียน ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามความถนัด ความสนใจ สามารถค้นหาเป้าหมายอาชีพของตนเอง และเตรียมความพร้อมในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการดำเนินโครงการทั้งสิ้นจำนวน 124 โรงเรียนทั่วประเทศ สำนักบริหารการมัธยมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 และโรงเรียนโพธิสารพิทยากร จัดกิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการชี้แจงแนวทางการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพ และคุณลักษณะผู้เรียนด้วยการเรียนรู้อย่างมีความสุข “เรียนที่ชอบ อาชีพที่ใช่ ได้ความสุข” โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย

1) ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน 62 เขตพื้นที่การศึกษา

2) ผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 124 คน

3) รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารและวิชาการ จำนวน 124 คน

4) หัวหน้างานหลักสูตรสถานศึกษา จำนวน 124 คน

และคณะทำงานจาก สพฐ. จำนวน 20 คน รวมผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้นจำนวน 454 คน เพื่อนำแนวทางไปประยุกต์ในการจัดการศึกษา เกิดนวัตกรรมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามความถนัด และความสนใจ ผู้เรียนได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาของชาติต่อไป

.

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า จากนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ “เรียนดี มีความสุข” โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนที่มีความสามารถด้านวิชาการสู่ความเป็นเลิศ ในขณะเดียวกันผู้เรียนที่มีความสนใจหรือถนัดด้านอื่นๆ ก็มุ่งสู่การสร้างอนาคต มีอาชีพ มีรายได้ นำไปสู่ความมั่นคงของชีวิตนั้น การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในปัจจุบัน ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนต้องออกแบบกระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้เด็กได้รู้จักตนเอง ผลักดันเด็กให้ฝึกวิชาชีพตามความถนัด มีความรู้ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็น เพื่ออนาคตที่จะต้องเชื่อมโยงกับการทำงาน เข้าสู่ตลอดแรงงานตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ หรือความต้องการของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ต้องขอขอบคุณ สพฐ. สำนักบริหารการมัธยมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 และโรงเรียนโพธิสารพิทยากร ที่ร่วมกันดำเนินงานจัดกิจกรรมในวันนี้ ซึ่งเป็นการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ส่งเสริมและจัดการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมสู่เส้นทางอาชีพ จนเป็นที่ประจักษ์ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครอง และได้รับความสนใจจากสถานศึกษาทั่วประเทศ ในการขอเข้าศึกษาดูงาน ตลอดจนได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ขอให้ผู้ที่เข้าร่วมการประชุมฯ ในวันนี้ นำผลการนำเสนอของโรงเรียนโพธิสารพิทยากร ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานตามบริบทของแต่ละพื้นที่ ให้เกิดประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียนอย่างแท้จริง และขอให้การประชุมฯ เป็นไปด้วยความราบรื่น บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิผลต่อไป