วันที่ 26 สิงหาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และนางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมผู้บริหารหน่วยงานหลักของกระทรวงศึกษาธิการ และผู้แทนหน่วยงานด้านการศึกษาจากประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ภายใต้หัวข้อ “พลิกโฉมการศึกษาในยุคดิจิทัล” (Transforming Education in the Digital Era) ร่วมลงพื้นที่ศึกษาดูงานยังสถานศึกษาในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมุ่งเน้นการเรียนรู้แบบ Active Learning การเสริมทักษะชีวิต การพัฒนานวัตกรรม และการใช้เทคโนโลยี AI ในการจัดการเรียนการสอน พร้อมทั้งเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของจังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน ซึ่งช่วยเสริมสร้างทักษะดิจิทัลที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงาน โดยมีผู้บริหารการศึกษาในพื้นที่ นักเรียนและครู ให้การต้อนรับและนำเสนอผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
.
โอกาสนี้ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ได้ไปศึกษาดูงาน ณ โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ โดยโรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม สังกัด สพม.บุรีรัมย์ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 มีนักเรียนจำนวน 3,355 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา 212 คน มีผลงานโดดเด่นในเรื่องของการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ส่งผลให้นักเรียนสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในอัตราที่สูง โดยโรงเรียนเป็นศูนย์โอลิมปิกวิชาการสาขาฟิสิกส์ ได้รับการคัดเลือกในโครงการโรงเรียนคุณภาพตามนโยบาย “1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ” ได้รับการคัดเลือกเป็นสถานศึกษาที่มีความโดดเด่นรับเครื่องหมายคุณภาพพิเศษแห่ง สพฐ. ระดับ 3 ดาว ในสาขา ความโดดเด่นการจัดการเรียนการสอนภาษาจีน ความโดดเด่นการจัดการเรียนการสอนภาษาญี่ปุ่น และความโดดเด่นด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับคัดเลือกเป็นโรงเรียนต้นแบบโรงเรียนสีเขียว อนุรักษ์พลังงาน จาก กฟผ. ได้รับผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสถานศึกษาออนไลน์ (ITA Online) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ระดับ AA อีกทั้งยังได้รับการรับรองการประเมินภายนอก จากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม IQA Award ระดับประเทศ และได้รับรางวัลสถานศึกษาต้นแบบการบริหารจัดการและดำเนินงานระบบแนะแนว ระดับยอดเยี่ยม ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมทั้งเดินหน้าขับเคลื่อนตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” โดยส่งเสริมให้นักเรียนได้รับการพัฒนาความเป็นเลิศรอบด้านและให้ผู้เรียนมีความมั่นคงในชีวิต รวมถึงการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นครูที่มีมาตรฐาน เป็นครูมืออาชีพ ใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างทันยุค และผลักดันโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนคุณภาพที่มีการจัดการเรียนการสอนเป็นมาตรฐาน รองรับ Education Hub และติด 1 ใน 10 ของประเทศ ต่อไป
.
ทางด้าน นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. พร้อมคณะผู้แทนหน่วยงานด้านการศึกษาจากประเทศต่าง ๆ ได้แก่ กัมพูชา ฟิลิปปินส์ บรูไน อินโดนีเซีย ติมอร์-เลสเต สำนักเลขาธิการซีมีโอฯ สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ได้ไปศึกษาดูงาน ณ โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา และโรงเรียนมีชัยพัฒนา ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการเป็นโรงเรียนทางเลือกต้นแบบของจังหวัดบุรีรัมย์ โดยโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลงานโดดเด่นจากโครงการ “การพัฒนาโรงเรียนเชิงระบบเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาตามนโยบายเรียนดีมีสุข” ซึ่งมีนวัตกรรมเชิงระบบที่จะนำมาใช้สำหรับการพัฒนาโรงเรียนและผู้เรียน ประกอบด้วย 1.นวัตกรรมเพื่อพัฒนาปัญญาภายในโดยใช้จิตศึกษา ซึ่งมีหลักคิดที่จะให้ผู้เรียนได้ตระหนักรู้ในตัวเอง มีสติที่ชำนาญ สามารถไตร่ตรองการตัดสินใจกระทำที่มีจริยธรรม เป็นกระบวนการที่ทำให้ผู้เรียนทุกคนได้สร้าง Self, Self-esteem, Self-control ที่จะนำไปสู่ Self-concept ก่อนอายุ 15 ปี 2.นวัตกรรมพัฒนาปัญญาภายนอก เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจในสิ่งที่เรียนรู้ได้อย่างแท้จริง เกิดสมรรถนะนำสิ่งที่เรียนไปใช้ในชีวิตจริงได้ 3.นวัตกรรมพัฒนาครูด้วย PLC (Professional Learning Community) เป็นกระบวนการที่จะเกิดขึ้นภายในโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอคงเส้นคงวา เพื่อเปลี่ยนการทำงานจากต่างคนต่างทำให้เป็นร่วมมือกันเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จนครูทุก ๆ คนสามารถเป็นครูโค้ชได้ และ 4.นวัตกรรมพัฒนาผู้ปกครอง CoP (Community of Prop) เป็นกระบวนการที่จะทำให้ผู้ปกครองได้เข้ามาเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อลูกในแต่ละช่วงวัย ได้มีความเข้าใจต่อการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของลูก และมีความเข้าใจต่อโรงเรียนเพื่อเกื้อหนุนร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง
.
ขณะที่ โรงเรียนมีชัยพัฒนา เป็นโรงเรียนประจำที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 มีจำนวนนักเรียน 82 คน และครูจำนวน 22 คน เกิดจากดำริของนายมีชัย วีระไวทยะ ผู้รับใบอนุญาตและนายกสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ที่ต้องการให้เด็กนักเรียนในชนบทมีโอกาสได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับเด็กนักเรียนในเมือง เพื่อสร้างเยาวชนให้เป็นคนดีของประเทศ มีพร้อมทั้งทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ โดยมีการคัดเลือกนักเรียนจากทั่วประเทศ มีคณะกรรมการคัดเลือกเป็นนักเรียนรุ่นพี่และคณะครู ซึ่งนักเรียนไม่ได้จ่ายค่าเล่าเรียนเป็นเงินแต่นักเรียนและผู้ปกครองต้องทำความดีช่วยเหลือสังคม ฝ่ายละ 400 ชั่วโมงต่อปี พร้อมทั้งปลูกต้นไม้ฝ่ายละ 400 ต้นต่อปี โดยโครงสร้างของอาคารเรียนและอาคารต่าง ๆ สร้างด้วยไม้ไผ่ มีโดมไม้ไผ่เป็นอาคารอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ถือเป็นลักษณะพิเศษของโรงเรียนมีชัยพัฒนา จึงเรียกว่า “โรงเรียนไม้ไผ่” หรือ Mechai Bamboo School ปัจจุบันโรงเรียนได้ขยายขอบเขตการดำเนินงานไปสู่การพัฒนาและช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนสำหรับผู้ด้อยโอกาส และหมู่บ้านในชนบทรอบ ๆ เขตบริการของโรงเรียนเป็นจำนวนมาก ภายใต้การดำเนินงานโครงการพัฒนาชนบทที่สำคัญ 2 โครงการ มีชื่อว่า “โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและรายได้โดยมีโรงเรียนเป็นศูนย์กลาง” และ “โครงการร่วมพัฒนาหมู่บ้าน” อีกทั้งโรงเรียนยังได้รับการคัดเลือกเป็นต้นแบบโรงเรียน ในโครงการ “โรงเรียนร่วมพัฒนา” ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากภาครัฐ ภาคเอกชน และความร่วมมืออื่น ๆ จากสถาบันอุดมศึกษาอีกด้วย
.
ทั้งนี้ การประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 สิงหาคม 2567 เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมระดับรัฐมนตรีที่ประกอบด้วย 3 การประชุมหลัก ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน (ASED) ครั้งที่ 13 การประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียนบวกสาม (APT EMM) ครั้งที่ 7 และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกด้านการศึกษา (EAS EMM) ครั้งที่ 7 โดยการประชุมทั้งหมดสำเร็จไปได้ด้วยดี และบรรลุตามวัตถุประสงค์อย่างครบถ้วน ซึ่งตลอดระยะเวลาการประชุมได้เปิดโอกาสให้ผู้นำด้านการศึกษาจากประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนบวกสาม (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น) และอาเซียนบวกแปด (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย สหรัฐอเมริกา รัสเซีย) ร่วมกันแสดงวิสัยทัศน์ แลกเปลี่ยนแนวทางการขับเคลื่อนการศึกษา และส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอนาคต ภายใต้หัวข้อ “พลิกโฉมการศึกษาในยุคดิจิทัล” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนานวัตกรรม การผลิตและการบริการ รวมถึงการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนในการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ สำหรับการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 14 จะจัดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้าในปี พ.ศ. 2569 โดยสาธารณรัฐสิงคโปร์
Cr.ภาพข่าว : เครือข่ายประชาสัมพันธ์ สพฐ.
- สพฐ. ดันผลงานดีเด่นด้าน Coding ชูศักยภาพนักเรียนไทยด้านการคิดสู่การศึกษาโลกดิจิทัล - 8 กันยายน 2024
- เสมา 2 “สุรศักดิ์” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ตรวจเยี่ยม รร.สังกัด สพฐ. ขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ต่อเนื่อง - 8 กันยายน 2024
- เลขาธิการ กพฐ. ร่วมสัมมนาเสริมสร้างทักษะคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับผู้เกษียณฯ ปี 2567 สพท.กาฬสินธุ์ - 8 กันยายน 2024