สพฐ. ประชุมร่วม ก.ค.ศ. เตรียมพร้อมสอบครูผู้ช่วย พร้อมชี้แจงกรณีผอ.รร.ล่วงละเมิดเด็ก

วันที่ 21 เมษายน 2563 นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ร่วมประชุมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อาทิ การสอบครูผู้ช่วย (หลักเกณฑ์ใหม่) การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ รวมถึงประเด็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีผู้บริหารของ สพฐ. และ ก.ค.ศ. เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ

นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการ กพฐ. เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการเตรียมความพร้อม ภายหลังที่ประชุม ก.ค.ศ. ได้มีมติเห็นชอบในร่างหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย พร้อมกับสื่อสารให้สังคมและข้าราชการครูได้เข้าใจถึงแนวปฏิบัติและหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปในทิศทางเดียวกัน เพราะขณะนี้มีตำแหน่งครูผู้ช่วยว่างอยู่ประมาณ 9,000 อัตรา ซึ่งยังไม่ได้กำหนดวันและเวลาในการสอบครูผู้ช่วยใหม่ ต้องรอประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง เนื่องจากคาดว่าจะมีครูเข้ามาสมัครมากกว่าแสนคน ดังนั้นหากจัดสอบในเวลานี้อาจจะส่งผลกระทบได้ ทางด้านหลักเกณฑ์การสอบครูผู้ช่วยในส่วนของข้อสอบนั้น ในปีนี้จะยังไม่มีการใช้ข้อสอบภาค ก ของ ก.พ. ในการดำเนินการสอบ เนื่องจากอยู่ระหว่างการประสานข้อมูลกับทาง ก.พ. ดังนั้นการจัดสอบครูผู้ช่วยในปีนี้จึงอยู่ในความดูแลของหน่วยงานต้นสังกัด คือ สพฐ. ที่จะเป็นผู้ออกข้อสอบภาค ก และ ภาค ข ก่อน โดยมีคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เป็นผู้จัดสอบ โดยจะมีมาตรการควบคุมเรื่องข้อสอบอย่างดีที่สุด ส่วนจะให้หน่วยงานไหนเป็นผู้ออกข้อสอบนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องขอหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง

สำหรับประเด็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีผู้อำนวยการโรงเรียนในสังกัด สพฐ. มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนนั้น นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการ กพฐ. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้อย่างมาก จึงให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ติดตามและดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่ง สพฐ. ก็ได้มอบให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เพชรบูรณ์ เขต 2 ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว ซึ่งสพป.พช. 2 รายงานว่า ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าว เข้ามาประจำยังสำนักงานเขตพื้นที่ฯ รวมถึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะสรุปข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ จากนั้นจะเสนอให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน แล้วจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน ทั้งนี้การให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง

“ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้ ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน (ฉก.ชน.) ในจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าไปดูแลสภาพจิตใจของนักเรียน รวมถึงความเป็นอยู่ เพราะตอนนี้อยู่ระหว่างการปิดภาคเรียน โดยจะต้องดูว่า เมื่อเปิดเรียนแล้วเด็กจะเข้ามาเรียนได้อย่างไร ส่วนกรณีที่ผู้อำนวยการโรงเรียนออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอนาจารเด็กนั้น ต้องดูข้อเท็จจริง โดยรอผลสอบของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่เรื่องความผิดทางอาญา เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องดำเนินการต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

ภาพ : ชุติมา
ข่าว : อัจฉรา