เลขาธิการ กพฐ. มอบโอวาทแก่ครูผู้ดูแลนักเรียนทุนฯ ม.ท.ศ. รุ่น 12 ก่อนเข้าเฝ้าฯ ร.10

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) มอบโอวาทและแนวนโยบายในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน แก่ครูผู้ดูแลนักเรียนทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. รุ่นที่ 12 จำนวน 167 คน และตรวจสุขภาพเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในการพระราชทานทุนแก่นักเรียนทุนฯ ดีเด่น ครูดีเด่น และนักเรียนทุนฯ ที่จบการศึกษา ประจําปี 2563 ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพมหานคร

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ครูเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้ประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านการเรียนและการใช้ชีวิต ให้เด็กได้มีโอกาสเลือกในสิ่งที่ตนถนัดและสนใจ ได้เห็นเป้าหมายของชีวิตอย่างแท้จริง ซึ่งในบางเรื่องครูอาจจะตัดสินแทนเด็กไม่ได้ว่าสิ่งไหนดีหรือสิ่งไหนไม่ดี แต่สามารถบอกกล่าวให้เด็กพิจารณาได้ว่าสิ่งไหนที่ดี ที่เหมาะสมกับตัวเอง

“ต้องขอบคุณคุณครูทุกท่านที่เสียสละเข้ามารับผิดชอบในโครงการนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ใครก็สามารถทำได้ เพราะต้องมีความรับผิดชอบและอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือเด็กอย่างแท้จริง เมื่อเด็กนักเรียนประสบความสำเร็จก็เหมือนคุณครูได้ประสบความสำเร็จด้วย หากเราร่วมมือกันดูแลช่วยเหลือนักเรียนทั้งประเทศ พวกเขาก็จะเติบโตขึ้นมาเป็นต้นกล้าที่แข็งแรง เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศต่อไปในอนาคต” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ที่จะเข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานทุนการศึกษา รับพระราชทานโล่เชิดชูเกียรติ จากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และกราบสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต ประกอบด้วยคณะนักเรียนผู้รับทุนฯ รุ่นที่ 12 จำนวน 171 คน คณะนักเรียนทุนฯ ดีเด่น รุ่นที่ 9 จำนวน 10 คน ครูดีเด่น จำนวน 8 คน คณะนักเรียนทุนฯ รุ่นที่ 3-5 ที่จบการศึกษา จำนวน 130 คน คณะครูผู้ดูแลนักเรียนทุนฯ รุ่นที่ 12 จำนวน 167 คน และคณะเจ้าหน้าที่อีก 9 คน รวมทั้งสิ้น 495 คน

สำหรับโครงการทุนการศึกษาพระราชทาน ม.ท.ศ. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เมื่อครั้งยังดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร มีพระราชดำริให้ดำเนิน “โครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร” ขึ้นเมื่อปี 2552 ทรงให้นำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์และเงินบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามพระราชปณิธานที่มุ่งสร้างความรู้ สร้างโอกาสแก่เยาวชนไทยที่ประพฤติดี มีความสามารถในการศึกษา ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มั่นคง ต่อเนื่องในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีตามความสามารถของแต่ละคน อันเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ และศักยภาพแก่เยาวชนไทย ต่อมาในปี 2553 มีพระราชดำริให้จัดตั้ง “มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร (ม.ท.ศ.)” โดยทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ และให้นำโครงการทุนฯ มาอยู่ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิฯ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืนสืบต่อไป

การดำเนินงานโครงการทุนฯ ม.ท.ศ. นับตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน ได้จัดสรรทุนพระราชทานแก่นักเรียนผู้ผ่านการคัดเลือก คัดสรร เป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมและเป็นไปตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับทุนฯ ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่องไปแล้ว รวม 11 รุ่น จากทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวม 1,764 ราย รวมเงินทุนพระราชทานที่จัดสรรไปแล้วจำนวน 461.74 ล้านบาท โดยที่การดำเนินงานโครงการทุนฯ ม.ท.ศ. ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป ได้มีการทบทวนปรับปรุงหลักการ แนวคิด และแนวทางการดำเนินงานโครงการให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลยิ่งขึ้นตามพระบรมราโชบาย โดยให้มีการทำสัญญาการรับทุนและชดใช้ทุน และกำหนดให้ผู้รับทุนต้องเข้ารับการฝึกและพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่รับทุน โดยเริ่มใช้ในนักเรียนทุนฯ ม.ท.ศ. รุ่นที่ 9 และใช้อย่างต่อเนื่องในรุ่นที่ 10 และรุ่นที่ 11 ในปี 2561-2562 รวมทั้งการดำเนินงานโครงการทุนฯ ในปี 2563 นี้ ต่อไปด้วย