เลขาธิการ กพฐ. พร้อมผู้บริหารสำนัก ร่วมประชุมผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ครั้งที่ 7/2564

วันที่ 7 เมษายน 2564 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ครั้งที่ 7/2564 เพื่อหารือข้อราชการและโครงการต่างๆ ที่ สพฐ. กำลังดำเนินการ อาทิ การขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวตรีนุช เทียนทอง) และความคิดเห็นต่อการส่งเสริมและจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในปัจจุบันของ สพฐ. เป็นต้น โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ได้แก่ นายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการ กพฐ. นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ รวมถึงผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และบุคลากรของ สพฐ. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ

ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม นายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการ กพฐ. เป็นตัวแทนเลขาธิการ กพฐ. ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า ในที่ประชุมได้หารือถึงเรื่องที่ สพฐ. ต้องเร่งดำเนินการ ทั้งในเรื่องของการกำกับดูแลมาตรฐานจริยธรรมของครู ที่จะปฏิบัติต่อนักเรียน เพื่อทำให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดภัย รวมทั้งการดูแลนักเรียน ซึ่งโรงเรียนต้องดูแลความปลอดภัยของเด็ก ทั้งระหว่างครูกับเด็ก เด็กกับเด็ก และผู้ปกครองกับเด็ก เพื่อให้เด็กแสดงความคิดเห็นในเรื่องของการศึกษาได้อย่างอิสระ ไม่ให้ผู้ใหญ่มาครอบงำได้ นอกจากนั้นยังมีเรื่องของหลักสูตรฐานสมรรถนะ ซึ่งต้องเร่งดำเนินการให้เร็ว โดยเฉพาะวิชาประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง และศีลธรรมจริยธรรม โดยใช้ชื่อที่เฉพาะเจาะจง เช่น ประวัติศาสตร์ร่วมสมัย ซึ่งทาง สพฐ. ได้รับมาและมอบให้สำนักที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อ และยังมีเรื่องการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ที่ในขณะนี้ สพฐ. ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ร่วมกันพัฒนาครูและผู้บริหารไปส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างเข้มข้นให้มีผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น“อีกเรื่องคือการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 เนื่องจาก ศบค. จะมีการประชุมเรื่องการปรับพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ซึ่งในขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่หลายโรงเรียนเริ่มปิดเทอมแล้ว แต่ยังมีการเดินทางไปมาอยู่ จึงได้กำชับให้สำนักงานเขตพื้นที่และโรงเรียนได้ดำเนินการตามมาตรการของ ศบค. อย่างเข้มงวด หากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ก็ขอให้ระมัดระวังและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 และยังได้ขอความร่วมมือจากข้าราชการของ สพฐ. ขอให้ปฏิบัติตนตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งการเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และขอความร่วมมือไม่เดินทางไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยง เช่น สถานบันเทิง ถึงแม้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงก็ตาม เนื่องจากในช่วงวันหยุดยาวอาจมีการเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนา จึงขอให้ทุกคนระวังตัวเอง หากว่าตรวจพบเชื้อโควิด ก็ต้องมีการกักตัวที่จังหวัดของตัวเอง และเมื่อกลับมากรุงเทพฯ ก็ต้องมีการกักตัวอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานได้ ดังนั้น หากทาง ศบค. มีการออกมาตรการเพิ่มเติมใดๆ สพฐ. จะแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดอีกครั้ง” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว