คุณหญิงกัลยา รมช.ศธ. พร้อมผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. ลงพื้นที่เยี่ยมชม Smart Intensive Farming สะเต็มศึกษาเพื่อสร้างเกษตรกรยุคใหม่

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) พร้อมด้วย นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ.) ผู้บริหารระดับสูง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู และนักเรียน ร่วมนำคณะทำงานโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน (Science Technology Innovation (STI) : Smart Intensive Farming) ไปนิเทศ ติดตามเชิงประจักษ์ เพื่อให้เห็นสภาพจริงการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางของโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน (Science Technology Innovation (STI) : Smart Intensive Farming) โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 26 พฤศจิกายน 2564 ณ โรงเรียนชุมชนดอยช้าง สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 (สพป.เชียงราย เขต 2) จังหวัดเชียงราย

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ (ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ. ได้ริเริ่มโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน (Science Technology Innovation (STI) : Smart Intensive Farming) โดยมีโรงเรียนนำร่อง จำนวน 6 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนห้วยสักวิทยาคม จังหวัดเชียงราย โรงเรียนชุมชนดอยช้าง จังหวัดเชียงราย โรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรียนเชียงดาววิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรียนเวียงมอกวิทยา จังหวัดลำปาง และโรงเรียนศรีสังวาลย์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อบูรณาการการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาการคำนวณกับการทำเกษตรแบบประณีตในโรงเรียน

โดยมีเป้าหมายเพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะและสามารถนำองค์ความรู้มาสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งสามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ ก่อให้เกิดรายได้ภายในโรงเรียน โดย สพฐ. ได้รับความร่วมมือจากศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAMEO STEM-ED) สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน จำนวนเงิน 1,200,000 บาท โดยรูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทางของโครงการ ประกอบด้วย 5 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 รู้จักพื้นที่ (Area based research)
ระยะที่ 2 เรียนรู้วางแผน  (Coding for Farm)
ระยะที่ 3 ริเริ่มปฏิบัติการ (Implementation)
ระยะที่ 4 รวบรวมพัฒนา (Development)
ระยะที่ 5 ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขยายผล (Sharing)

สำหรับการนิเทศ ติดตามเชิงประจักษ์ในครั้งนี้ เป็นการแสดงความมุ่งมั่นตั้งใจของ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช (รมช.ศธ.) และคณะทำงานโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน (Science Technology Innovation (STI) : Smart Intensive Farming) ทุกท่าน ในการนำเสนอความก้าวหน้า และผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินการตามโครงการฯ ดังกล่าว ที่เน้นการสร้างองค์ความรู้ทางด้านเกษตรกรรม โดยการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นฐาน เข้ามาใช้ประโยชน์ ในภาคการเกษตร ซึ่งสามารถขยายผลไปสู่ชุมชน โดยครูผู้สอนจะได้รับการพัฒนาศักยภาพการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ประกอบด้วย การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ และวิทยาการคำนวณ Coding For Farm มาใช้ในการสร้างองค์ความรู้ให้แก่นักเรียนในภาคการเกษตร

ซึ่งการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในภาคการเกษตร จะช่วยตรวจสอบปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น เมื่อมีการตรวจวัดปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างแม่นยำแล้ว จะส่งผลให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้นและมีคุณภาพ ช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อนักเรียนเกิดองค์ความรู้ ก็สามารถจัดตั้งแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนให้แก่บุคคลทั่วไปที่สนใจ หรือสามารถต่อยอดไปถึงชุมชน โดยทางโครงการฯ ได้รับความร่วมมือจากทางภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมการดำเนินโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน (Science Technology Innovation (STI) : Smart Intensive Farming) อาทิ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาอมก๋อย ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่, สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงโครงการหลวงวาวี, สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)

ทั้งนี้ การนิเทศ ติดตามเชิงประจักษ์โครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน (Science Technology Innovation (STI) : Smart Intensive Farming) ณ โรงเรียนชุมชนดอยช้าง สังกัด สพป.เชียงราย เขต 2 จังหวัดเชียงราย ในครั้งนี้ เป็นตัวอย่างที่สำคัญอันหนึ่งของโครงการที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้า และผลสัมฤทธิ์ของโครงการ โดยในอนาคต ทาง สพฐ. จะดำเนินการขยายผลไปสู่โรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อนำไปสู่การผลักดัน ให้เกิดการยกระดับกระบวนการผลิตและคุณภาพสินค้าภาคการเกษตร ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตต่อไป

ด้านคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช (รมช.ศธ.) กล่าวชื่นชม​ความสำเร็จ​อันเป็นรูปธรรมของโรงเรียนชุมชนดอยช้าง โดยเฉพาะ​โครงการ​อัจฉริยะ​เกษตร​ประณีต​ในโรงเรียน Smart Intensive Farming ที่ทำได้อย่างน่าประทับใจ​ ทั้งที่โรงเรียน​ขาดแคลน​ทุกอย่าง ไม่ว่าจะ​เป็น​คุณภาพ​ดินไม่ดี ที่ตั้ง​อยู่ใน​พื้นที่สูง​ชัน แต่ก็สามารถ​แก้ไข​ปัญหา​ด้วยการนำวัสดุที่มีในท้องถิ่น​มาใช้ให้เกิดประโยชน์​ได้ ซึ่งการทำแบบนี้​ได้ต้องมีการลงพื้น​ที่​ศึกษา​สังคม​ ภูมิศาสตร์​ รู้ความต้องการของตลาดแล้วนำมาวางแผนจนประสบความสำเร็จ​ ถือเป็น​โครงการ​ที่สมบูรณ์แบบ​ที่สุดที่เคยตรวจราชการ​มา สอบผ่านด้วยคะแนนเต็ม​ร้อยคะแนน​

สำหรับโครงการ​อัจฉริยะ​เกษตร​ประณีต​ในโรงเรียนของโรงเรียนชุมชน​ดอยช้าง สามารถ​เป็นต้นแบบขยาย​ผลไปสู่โรงเรียน​ในเครือ​ได้ ซึ่งสอดคล้อง​กับนโยบาย​ของกระทรวง​ศึกษาธิการ​ และปรัชญา​ของ​เศรษฐกิจพอเพียง ที่มุ่งให้ทุกคนพึ่งพา​ตนเองได้ ประชาชน​มีรายได้ มีคุณภาพ​ชีวิต​ที่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน​ขอฝากให้ครูทำหน้าที่​เป็นพี่​เลี้ยง​สอนสิ่งที่เด็กสนใจ สร้าง​บรรยากาศ​ที่ดีในการเรียนรู้​ให้เกิดสมรรถนะ​ เรียนแล้วเกิด​ประโยชน์​ สามารถ​ออกไปแก้ปัญหา​สังคม และสร้าง​มูลค่า​ขึ้นได้

โรงเรียน​ชุมชน​ดอย​ช้าง​ ตั้งอยู่​ในถิ่นทุรกันดาร​ นักเรียน​ส่วนใหญ่​เป็นชาวไทยภูเขา ประกอบด้วย​ชนเผ่าอาข่า ลีซู ไทยใหญ่​ และจีนยูนนาน จัดหลักสูตร​เกษตร​อัจฉริยะ​โดยแบ่งเป็นทีมงานผลิต​ (กลุ่ม​ผลิต​พืชผัก​ กลุ่ม​ผลิต​ปุ๋ย​จากมูลไส้เดือน​ดิน กลุ่ม​เลี้ยงไก่กระดูก​ดำ)​ ทีมงานแปรรูป​ผลิต​ภัณฑ์​ (กลุ่ม​ผลิตเครื่อง​ดื่ม​ กลุ่ม​ผลิต​ขนมและเบเกอรี่​ กลุ่ม​ผลิต​อาหาร)​ ทีม​งานออกแบบผลิตภัณฑ์​ และทีมงานการตลาด มีการส่งผลผลิต​ออกขายให้ชุมชน​ในพื้นที่และชุมชน​ใกล้เคียง​จนสามารถ​สร้าง​รายได้ให้กับโรงเรียน​ รวมถึงเปิดร้าน​กาแฟเพื่อส่งเสริม​การท่องเที่ยว​ชุมชน​ด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก คุณธีระเดช และภาพจาก ประชาสัมพันธ์ ศธ.