สพฐ. – สธ. ตรวจเยี่ยมการเปิดเรียนวันแรก เน้นย้ำปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด พร้อมเติมความรู้ให้นักเรียน

วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) เดินทางไปตรวจเยี่ยมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ณ โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ กรุงเทพฯ ร่วมกับ นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย เพื่อตรวจความพร้อมของโรงเรียนในการเปิดเรียนแบบ On-Site 100% และบรรยากาศการมาโรงเรียนวันแรกของนักเรียนและผู้ปกครอง โดยมี นายนิยม ไผ่โสภา ผอ.สพม.กทม. เขต 1 รวมถึงผู้บริหารและคณะครู โรงเรียนมัธยมวัดมกุฎกษัตริย์ ร่วมรายงานผลการเปิดเรียนในวันแรกนี้

นางเกศทิพย์ ศุภวานิช กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมในวันนี้ พบว่าทางโรงเรียนสามารถเตรียมความพร้อมในการเปิดเรียนได้ดี เมื่อพูดคุยกับคุณครูก็ได้รับทราบว่า นักเรียนดีใจที่ได้มาโรงเรียน มาพบคุณครูและเพื่อนๆ ขณะที่ผู้ปกครองก็ไว้วางใจให้เด็กได้มาเรียนแบบ On-Site นอกจากนั้นยังได้ให้กำลังใจผู้บริหารโรงเรียนและคณะครูในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ ทั้งในเรื่องการจัดการเรียนการสอนที่ต้องเสริมเติมความรู้ให้เด็ก พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 และแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด พร้อมๆ กับรณรงค์เรื่องการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด ซึ่งจุดเด่นของโรงเรียนนี้คือมีแกนนำนักเรียนที่เข้มแข็งในการกำกับและติดตามเรื่องดังกล่าว ขณะที่รองอธิบดีกรมอนามัย ได้เน้นย้ำการสื่อสารให้คณะครู นักเรียน และผู้ปกครอง เข้าใจถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยต้องมีการประเมิน Thai Save Thai (TST) ปฏิบัติตามมาตรการ 6-6-7 รวมถึงการเฝ้าระวังป้องกันภัยในโรงเรียน ส่วนเรื่องรถรับส่งนักเรียนให้ประสานกรมการขนส่งทางบกในการอำนวยความสะดวก และเน้นการประชาสัมพันธ์เรื่องการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

ขณะที่ในภาพรวมของการเปิดเรียนวันแรกแบบ On-Site 100% ของทั้งประเทศนั้น พบว่าโรงเรียนส่วนใหญ่ผ่านการประเมิน Thai Stop Covid plus (TSC+) ถึงร้อยละ 99.1 มีความครอบคลุมในการประเมิน ร้อยละ 63.6 ส่วนใหญ่ที่ไม่ผ่านจะเป็นในส่วนของมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางมาโรงเรียน ส่วนมาตรการในโรงเรียนสามารถทำได้ และปฎิบัติได้มากกว่าร้อยละ 90 ทางด้านนักเรียนและครู ที่ประเมิน TST ส่วนใหญ่มีความเสี่ยงต่ำ และปฎิบัติตามแผนเผชิญเหตุเป็นอย่างดี ส่วนการได้รับวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 12-17 ปี ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นครอบคลุมร้อยละ 10.2 ชึ่งยังน้อยอยู่ ส่วนในกลุ่มอายุ 5-11 ปี ได้รับวัคซีนเข็มสอง ร้อยละ 22.4 ทั้งนี้ ยืนยันว่าการสวมหน้ากากอนามัยยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ปกป้องการติดเชื้อได้อย่างดี รวมถึงการล้างมือบ่อยๆ เป็นประจำด้วย