สพฐ. รุดเยี่ยมโรงเรียนน้ำท่วม ขอบคุณชุมชน วัด หน่วยงานจิตอาสาร่วมช่วยลูกนักเรียน

วันที่ 6 กันยายน 2565 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีโรงเรียนในสังกัด สพฐ. หลายแห่งได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเขตพื้นที่ สพป.อยุธยา เขต 2 ซึ่งได้รับรายงานว่าเป็นพื้นที่ที่เกิดความเสียหายมากที่สุด อีกทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวตรีนุช เทียนทอง ได้กำชับในเรื่องการดูแลความปลอดภัยในสถานศึกษา รวมถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา เลขาธิการ กพฐ. จึงได้มอบหมายให้ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย มอบสิ่งของช่วยเหลือพร้อมทั้งพบปะพูดคุย สร้างขวัญกำลังใจให้คณะครูและนักเรียน ณ โรงเรียน บ้าน และวัด

จากการลงพื้นที่ สพป.อยุธยา เขต 2 ได้รับรายงานความเสียหายจากผลกระทบเหตุการณ์อุทกภัย (ข้อมูล ณ วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2565) ว่า มีโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายจำนวน 16 โรงเรียน มีนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 378 คน แต่ยังสามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติทุกโรงเรียน ตามบริบทของแต่ละโรงเรียน ด้วยการเรียนแบบผสมผสานในรูปแบบ ON Site, On Hand, On Demand และ Online ซึ่งเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ทุกโรงเรียนจะจัดการเรียนการสอนเสริมเพิ่มเติมให้กับนักเรียนด้วย ทั้งนี้ ความเสียหายทั้งหมดจากอุทกภัย ยังไม่สามารถประเมินได้จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะดำเนินการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด อีกทั้ง สพป.อยุธยา เขต 2 ได้ออกตรวจเยี่ยม และดูแลช่วยเหลือโรงเรียนในสังกัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในเบื้องต้นแล้ว โดยร่วมกับ สพฐ. ส่วนกลาง ในการจัดกล่องยังชีพให้กับนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 200 กล่อง รวมเป็นเงิน 100,000 บาท

สำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้ รองเลขาธิการ กพฐ. ได้เดินทางไปยังโรงเรียนวัดตะกู อ.บางบาล โดยลงเรือท้องแบนเพื่อตรวจสภาพน้ำท่วม รร.วัดตะกู และเยี่ยมนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่ง รร.วัดตะกู เป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด อาคารเรียนถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถใช้จัดการเรียนการสอนได้ ในส่วนนี้ได้รับการอนุเคราะห์จากวัดตะกู ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง อนุญาตให้ใช้ศาลาการเปรียญของวัดเพื่อเป็นห้องเรียนชั่วคราวให้นักเรียนได้เรียนหนังสือแบบ On Site แสดงให้เห็นถึงการประสานความร่วมมือระหว่างโรงเรียน วัด และชุมชน ในการสนับสนุนการศึกษา ทำให้เด็กไม่ขาดการเรียนรู้ พร้อมกันนั้น รองเลขาธิการ กพฐ. และคณะทำงานได้มอบกล่องยังชีพ จำนวน 93 ชุด ให้กับนักเรียน รร.วัดตะกู 51 คน รร.วัดอินทาราม 42 คน จากนั้นเดินทางไปตรวจสภาพน้ำท่วมยังโรงเรียนวัดกอไผ่ อ.บางบาล พร้อมมอบกล่องยังชีพให้นักเรียน รร.วัดกอไผ่ จำนวน 51 คน และเดินทางไปยังโรงเรียนวัดบางกะทิง อ.เสนา เพื่อตรวจสภาพน้ำท่วม และมอบกล่องยังชีพ จำนวน 52 กล่อง ให้กับนักเรียน รร.วัดบางกะทิง 14 คน นักเรียน รร.วัดประดู่โลกเชษฐ์ 24 คน และนักเรียน รร.วัดบันไดช้าง 14 คน ซึ่งทั้งสองแห่งนี้ได้รับความเสียหายบางส่วน มีอาคารเรียนใต้ถุนสูงจึงสามารถจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้

นางเกศทิพย์ กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า รมว.ศธ. และเลขาธิการ กพฐ. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อนักเรียน ครู และสถานศึกษาในหลายพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงได้กำชับให้ดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ซึ่งจากการลงพื้นที่ในวันนี้ พบว่าทางโรงเรียนและเขตพื้นที่ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมเป็นอย่างดี มีการติดตามข่าวสารจากหน่วยงานด้านสาธารณภัยในพื้นที่ รวมถึงประสานกับหน่วยงานสาธารณสุขและชุมชนใกล้เคียงหากเกิดเหตุขึ้นกับนักเรียนหรือบุคลากร พร้อมรายงานสถานการณ์ให้ สพฐ. รับทราบอย่างสม่ำเสมอ

“สิ่งที่ต้องขอชื่นชมคือ การประสานงานร่วมกันระหว่าง โรงเรียน วัด และชุมชน ที่ต่างให้การสนับสนุนช่วยเหลือกันในทุกสถานการณ์ ไม่ใช่เพียงแค่การศึกษาเท่านั้น แต่ยังช่วยเหลือเกื้อกูลกันเมื่อมีปัญหาต่างๆ อีกด้วย รวมถึงจิตอาสาที่ได้เข้ามาช่วยกัน และหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อบต. และทหารจาก ม.5 พัน.24 รอ. นับเป็นภาพอันน่ายินดีที่เราอยากให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ และสิ่งสำคัญคือกำลังใจที่ดีเยี่ยมจาก ผอ.เขตพื้นที่ ในการบริหารจัดการอย่างเต็มความสามารถ ไม่ย่อท้อต่อปัญหาอุปสรรค มองวิกฤตเป็นโอกาส ถือเป็นกำลังแรงใจอย่างดีให้กับโรงเรียนที่กำลังประสบภัยได้ก้าวผ่านอุทกภัยครั้งนี้ไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังค่ะ” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว