ศธ. แจ้งรร. ในสังกัด เตรียมพร้อมรับมือหลัง สธ. ยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19

วันที่ 3 ตุลาคม 2565 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทั่วประเทศ ตามประกาศยกเลิกมาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และประกาศหลักเกณฑ์การเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ตามข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตร 9 แห่งพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยมี นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอรรถพล สังขวาสี รักษาราชการปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา รักษาราชการเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายวัลลพ สงวนนาม เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และนายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมการแถลงข่าว ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ

นางสาวตรีนุช เทียนทอง (รมว.ศธ.) กล่าวว่า จากที่กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศยกเลิกโรคโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตรายมาเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา และจากระเบียบที่ ศธ. ได้ออกไปสู่การปฏิบัติในสถานศึกษา ทั้งในเรื่องของการประกาศมาตรการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือหลักเกณฑ์การเปิดภาคเรียนในสถานศึกษา หรือกลไกลต่าง ๆ ที่ได้มีการบังคับใช้ในกระทรวงศึกษาธิการที่ผ่านมา จะได้มีการปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งต้องยอมรับว่ากระทรวงศึกษาธิการในฐานะที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องของการศึกษาในสังกัด เรามีภารกิจที่ต้องร่วมกันทำให้สถานศึกษามีความปลอดภัย และสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ให้ความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขมาโดยตลอด และมีการเฝ้าระวังในเรื่องสุขอนามัยของผู้เรียน เพื่อทำให้การศึกษาปลอดภัย ตามนโยบายของรัฐบาลที่มีความห่วงใยต่อประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของเด็กไทย ด้วยหลัก 4H หนึ่งในนั้นคือ Health ซึ่งเป็นการพัฒนาเด็กให้มีสุขภาพที่ดี นับเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการเรียนรู้อย่างยิ่ง

“กระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ในการส่งเสริมให้นักเรียนมีสุขภาพที่ดี ทั้งร่างกายและจิตใจเข้มแข็ง เตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ต่อไป โดยกระทรวงศึกษาธิการจะเน้นเรื่องของระบบ และการใช้ทักษะที่ให้คุณครูและนักเรียนดูแลตัวเองได้ และต่อไปจะมีโครงการ 1 โรงเรียน 1 ครูอนามัย เพื่อที่จะสร้างเด็กไทยให้ได้รับรู้ในเรื่องของทักษะในการคัดกรองสุขภาพในเบื้องต้น รวมถึงเรื่องของความเสี่ยง ซึ่งขณะนี้ในเรื่องของมาตรการการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป กระทรวงศึกษาธิการได้เน้นย้ำเรื่องการทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสุขอนามัย ซึ่งเดิมมีอยู่แล้วแต่คงต้องปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป” รมว.ศธ. กล่าว

ทางด้าน นายอัมพร พินะสา (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า สำหรับโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ได้มีการสื่อสารไปยังโรงเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป ให้มีการปฏิบัติตนเพื่อใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและปราศจากโรคโควิด-19 ได้แก่ 1. การป้องกัน คือ การนำแนวปฏิบัติของสาธารณสุขที่ให้ไว้ ลงสู่การปฏิบัติด้วยตนเอง โดยนักเรียน คุณครู และพี่น้องประชาชน ต้องปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบของการดูแลสุขภาพอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง 2. การเฝ้าระวัง คือ การตรวจสุขภาพอนามัยหรือการสังเกตอาการของนักเรียนตั้งแต่อยู่ในครอบครัว เพื่อเป็นการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และ 3. การเผชิญเหตุ หากเกิดกรณีที่พบเด็กติดเชื้อ เราต้องมีแผนเผชิญเหตุว่าจะรับมืออย่างไร จะส่งต่อไปยังสาธารณสุข และจัดการเรียนการสอนให้เด็กอย่างไรบ้าง นับว่าเป็นการผ่อนปรนจากสถานการณ์ที่รุนแรงมาก่อนหน้านี้ แต่เรายังต้องเฝ้าระวังอยู่เพื่อความปลอดภัย เหล่านี้คือสิ่งที่ต้องสื่อสารให้ประชาชนได้เข้าใจ ซึ่งจะมีการแจ้งกำชับแนวปฏิบัติตามกรอบของกระทรวงสาธารณสุข ไปยังเขตพื้นที่และสถานศึกษาทั่วประเทศในสังกัด สพฐ. ต่อไป