วันที่ 1 เมษายน 2562 พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการสามัคคีสัมพันธ์ สานฝันการกีฬา” ครั้งที่ 4 ประจำปี 2562 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนจากโครงการ “สานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้” และโครงการ “ห้องเรียนกีฬา” ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ผ่านการแข่งขันกีฬาแห่งมิตรภาพ พร้อมศึกษาศาสตร์พระราชาเพื่อน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำรงชีวิต ณ จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง
พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้นำนโยบายของนายกรัฐมนตรีด้านการนำการกีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษามาสู่การปฏิบัติ ด้วยการจัดให้มี “โครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้” โดยมุ่งเปิดโอกาสให้นักเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้พัฒนาศักยภาพของตนเองด้านการกีฬาในระดับมัธยมศึกษา และได้ขยายผลการดำเนินงานโครงการออกไปทั่วทุกภูมิภาคในชื่อ “โครงการห้องเรียนกีฬา” โดยมีเป้าหมายในการคัดเลือกนักเรียนที่มีรูปร่างสูงใหญ่เข้ารับการศึกษา แล้วจึงใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา การโภชนาการที่เหมาะสม และการฝึกซ้อมอย่างเป็นระบบมาเป็นฐานในการพัฒนาศักยภาพของนักเรียน ซึ่งทำให้นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะด้านกีฬาควบคู่ไปกับวิชาการ สร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ปัจจุบันมีนักเรียนทั้ง 2 โครงการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 2,700 คน
ต่อมาได้มอบหมาย สพฐ. ให้จัดโครงการ “สามัคคีสัมพันธ์ สานฝันห้องเรียนกีฬา” เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนทั้ง 2 โครงการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ผ่านการแข่งขันกีฬาแห่งมิตรภาพ การศึกษาศาสตร์พระราชาเพื่อน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้และทำความเข้าใจในวัฒนธรรมต่างๆ การอยู่ร่วมกัน การสร้างมิตรภาพ และความสามัคคี ซึ่งโครงการนี้ได้จัดมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 จัดขึ้นที่จังหวัดนครนายก ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และครั้งที่ 3 ที่กรุงเทพมหานคร นับได้ว่าประสบผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 เป็นการจัดขึ้นครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 1-5 เมษายน 2562 ณ จังหวัดขอนแก่น
สำหรับกลุ่มเป้าหมายในการร่วมกิจกรรมประกอบด้วยนักเรียนจากทั้ง 2 โครงการ จำนวน 2,490 คน โดยกิจกรรมที่น่าสนใจจะมีการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ศาสตร์พระราชา และวัฒนธรรมท้องถิ่น อาทิ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ(ขอนแก่น) สวนสัตว์ขอนแก่น ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา จ.ขอนแก่น พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ศึกษาแหล่งเรียนรู้ เมืองโบราณโนนเมือง ชุมแพ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์สิรินธร ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีการแข่งขันกีฬาแห่งมิตรภาพและสร้างความสามัคคี ด้วยกีฬาฟุตบอล วอลเลย์บอล และบาสเกตบอล และกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้พหุวัฒนธรรมร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะทำให้เด็กและครู ได้รับการปลูกฝังด้านคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เสริมสร้างมิตรภาพความสามัคคี และเรียนรู้สืบสานศาสตร์พระราชามาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต
“สิ่งสำคัญที่ได้จากการจัดกิจกรรมนี้ นอกจากความรักความสามัคคีระหว่างนักเรียนทั้ง 2 โครงการแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ดี เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด ศาสตร์พระราชา น้อมนำมาเป็นหลักปรัชญาในการดำรงชีวิต สอดคล้องกับพระราโชบายของรัชกาลที่ 10 ด้านการศึกษา ซึ่งท่านต้องการสร้างให้คนไทยมีคุณสมบัติ 4 ด้าน คือ 1.มีทัศนคติที่ดีและถูกต้องต่อบ้านเมือง 2.มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงมีคุณธรรม 3.มีงานทำ มีอาชีพ และ 4.เป็นพลเมืองดีมีระเบียบวินัย ทำให้เยาวชนเป็นหลักในการพัฒนาประเทศได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ ด้านการรักษาความปลอดภัยตลอดการเดินทางไประหว่างวันที่ 28-31 มีนาคม 2562 และการเดินทางกลับระหว่างวันที่ 5-6 เมษายน 2562 ทาง สพฐ. ได้จัดสรรงบประมาณและขอความร่วมมือไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ดำเนินการจัดจุดพักรถ พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดจุดบริการพักรถและอำนวยความสะดวกดูแลช่วยเหลือสถานศึกษา ครู นักเรียน และผู้เกี่ยวข้อง
โดยให้วิเคราะห์ที่ตั้งจุดบริการให้มีความเหมาะสมกับเส้นทางในการเดินทางไป-กลับ พร้อมทั้งจัดจุดพักนอน หรือนวดผ่อนคลาย อาหารเครื่องดื่ม ผ้าเย็น โดยจัดทำข้อมูลผู้เข้ารับบริการตามแต่ละจุด รวมทั้งจำนวนหน่วยงาน จำนวนผู้รับบริการ ตามสถานการณ์ในแต่ละวัน ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดภารกิจงานให้สรุปเป็นภาพของการปฏิบัติงานทั้งหมดและรายงานมายัง สพฐ. ต่อไป
ภาพ/ข่าว : ทีมประชาสัมพันธ์ สพฐ. เฉพาะกิจ