พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี เปิดอบรมการจัดการเรียนการสอน โดยใช้การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV TELETRAINING)

วันที่ 15 พฤษภาคม 2562 พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานเปิดและบรรยายพิเศษการอบรมการจัดการเรียนการสอน โดยใช้การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV TELETRAINING) โดยมี รองศาสตราจารย์ นราพร จันทร์โอชา รองประธานกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายสาโรจน์ ขอจ่วนเตี๋ยว ที่ปรึกษามาตรฐานด้านอาชีวศึกษาช่างอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผู้บริหารระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญ ศึกษานิเทศก์ และผู้แทนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 28 เขต เข้าร่วม ณ ห้องประชุม Auditorium ชั้น 2 อาคารกาญจนาภิเษก สถาบันวิชาการทีโอที งามวงศ์วาน

พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ กล่าวว่า มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2538 ด้วยพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประเทศไทย ได้แก่ โรงเรียนที่มีครูสอนไม่ครบชั้น โรงเรียนที่มีครูสอนไม่ตรงเอกที่ตนเองได้เรียนมา โดยมีพระราชประสงค์ว่าให้มูลนิธิฯ ให้ความช่วยเหลือในการจัดการเรียนการสอน เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง การอบรมบ่มนิสัย โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการจัดการเรียนรู้ มุ่งเน้นความเป็นมนุษย์ โดยปลูกฝังด้านคุณธรรม จริยธรรม และการพัฒนาจิตใจเป็นสำคัญ จนมาถึงปัจจุบัน ด้วยพระอัจริยภาพและสายพระเนตรอันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ ว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ร่วมถึงทรงให้ความสำคัญกับการศึกษาอย่างยิ่ง ทรงมีพระราชดำรัสว่า “การศึกษา คือ ความมั่นคงของประเทศ” โดยทรงมอบพระบรมราโชบายด้านการศึกษาว่า การศึกษาต้องสร้างให้คนไทยให้มีคุณสมบัติ 4 ประการ คือ 1. มีทัศนคติที่ดีและถูกต้อง 2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็ง 3. มีอาชีพ มีงานทำ และ 4. เป็นพลเมืองดี มีระเบียบวินัย โดยทางมูลนิธิฯ ได้น้อมนำเป็นแนวทางสำหรับการดำเนินงานของการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV เรื่อยมา

ซึ่งในปัจจุบันได้พัฒนาต่อยอดมาเป็น NEW DLTV และได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงสัญญาณภาพให้คมชัดมากขึ้นจาก SD (Standard Definition) เป็น HD (High-Definition) เพิ่มช่องทางออกอากาศ นอกเหนือจากสัญญาณดาวเทียม ทำให้สามารถรับชมย้อนหลังผ่านเว็บไซต์ www.dltv.ac.th และแอปพลิเคชั่น DLTV ได้ มีการขยายฐานเวลาออกอากาศนอกเหนือจากเวลาเรียน พร้อมทั้งออกอากาศการจัดการเรียนการสอนเพิ่มเติมในระดับปฐมวัย ปรับปรุงห้องเรียนต้นทางให้ทันสมัยโดยมุ่งเน้นให้สื่อสารไปยังโรงเรียนปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาเทคนิคการสอนและสื่อการเรียนการสอนของครูต้นทางทุกระดับ พัฒนาโรงเรียนปลายทางให้มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย ในโรงเรียนเป้าหมาย 1,750 โรงเรียน ในปี 2562 มีการซ่อมบำรุงเครือข่ายในระบบใหม่โดยจัดให้มีหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือในการซ่อมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ ครูสามารถดูเนื้อหาการสอนล่วงหน้าได้ 3 วัน อีกทั้งมีการพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนนำร่องเพื่อการศึกษาทางไกลแบบ 2 ทาง คือ มีโรงเรียนต้นทาง 1 โรงเรียน เป็นแม่ข่าย และมีโรงเรียนปลายทาง 3 โรงเรียน เป็นลูกข่าย โดยจัดให้เรียนพร้อมกัน ตอบโต้กัน เสมือนได้เรียนสื่อในห้องเรียนเดียวกัน ซึ่งได้รับต้นแบบมาจากการจัดการเรียนการสอนตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่โรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์ จังหวัดสงขลา โดยทางมูลนิธิฯ ได้พัฒนาเครือข่ายนำร่อง จำนวน 5 เครือข่าย ใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ รวม 20 โรงเรียน และมีการดำเนินการเรียนการสอนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเริ่มที่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 รวมถึงในอนาคตจะมีการจัดทำรายการเพื่อการศึกษาด้านประวัติศาสตร์สำหรับเยาวชนไทย ประมาณ 65 ตอน โดยจะมีคณะกรรมการในการจัดทำเพื่อคัดสรรว่าควรจะมีเรื่องอะไรบ้างที่จะสื่อสารให้กับเด็กในแต่ละวัย ซึ่งจะมีการพัฒนาต่อยอดเพื่อพัฒนาบ้านเมืองด้วยการศึกษาต่อไป

สำหรับภายในงานมีกิจกรรม การเสวนา เรื่อง การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ระดับปฐมวัย การจัดการเรียนรู้ระดับประถมศึกษา และการจัดการเรียนรู้ระดับมัธยมศึกษา โดย ครูโรงเรียนต้นทางและครูโรงเรียนปลายทาง การเสวนา เรื่อง บทบาทของผู้อำนวยการโรงเรียนในการบริหารจัดการ เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมให้มีประสิทธิภาพ โดย ผู้อำนวยการโรงเรียนปลายทางจาก 4 ภูมิภาค การเสวนา เรื่อง การส่งเสริมสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา อีกทั้งเปิดโอกาสให้มีการโทรศัพท์เข้ามาสอบถามข้อสงสัยในการดำเนินงาน ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ทำหนังสือเชิญชวนให้หน่วยงานเข้าร่วมอบรม ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 225 เขต โรงเรียนปลายทางสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทุกโรงเรียน 32,000 โรงเรียน สังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน 214 โรงเรียน โรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด 8,609 โรงเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ร่วมรับชมการถ่ายทอดสดและเข้าอบรมในครั้งนี้อีกด้วย

ชุติมา : ภาพ
ฐิติมา : ข่าว