สพฐ.กำชับรับเปิดเทอม 2568 ห้ามมอบหมายครูอยู่เวร–กำกับการลงโทษนักเรียนยึดระเบียบ ศธ.สร้างการศึกษา “เรียนดี มีความสุข

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทั่วประเทศ ได้เปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ครบถ้วนอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งตนเน้นย้ำความสำคัญของการบริหารจัดการศึกษา โดยขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาทุกแห่ง ร่วมกันสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนานักเรียนให้ “เรียนดี มีความสุข” ลดภาระที่ไม่จำเป็นของครู บุคลากร นักเรียน และผู้ปกครอง เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถมุ่งมั่นกับภารกิจของตนได้เต็มที่ และร่วมกันผลักดันเป้าหมายพัฒนานักเรียน “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด และฉลาดทำ”

เพื่อให้สถานศึกษาเปิดภาคเรียนด้วยความพร้อม สพฐ. ได้กำหนด 5 แนวทาง ให้สถานศึกษาปฏิบัติ ดังนี้ 1. ด้านความปลอดภัยของสถานศึกษา เน้นดูแลสวัสดิภาพนักเรียนทั้งในและนอกเวลาเรียน 2. ด้านการเสริมสร้างโอกาสในการเรียนรู้และสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น เยี่ยมบ้านนักเรียน 100% การจัดการเรียนเสริม และระบบแนะแนวที่ตอบโจทย์ตามบริบทผู้เรียน 3. ด้านการสร้างเครือข่ายและการสร้างความร่วมมือ ให้สถานศึกษาประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และชุมชน เพื่อร่วมกันดูแลความเรียบร้อยของโรงเรียน 4. ด้านงบประมาณ ให้ดำเนินการใช้จ่ายตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด และ 5. ด้านแผนเผชิญเหตุ ให้สถานศึกษาเตรียมพร้อมรับมือเหตุและภัยพิบัติต่างๆ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเกิดเหตุ พร้อมเฝ้าระวังสิ่งเสพติด เช่น บุหรี่ไฟฟ้า และปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะเข้าถึงนักเรียน

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำ ว่า หากเกิดเหตุจำเป็นต้องลงโทษนักเรียน ขอให้ครูยึดหลักจรรยาบรรณ และเคร่งครัดปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 กฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 และฉบับที่ 2 พ.ศ.2562 ซึ่งกำหนดโทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทําความผิดได้ 4 มาตรการ ได้แก่ 1.การว่ากล่าวตักเตือน 2. ทำทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนความประพฤติ และ 4.จัดกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยน และห้ามมิให้ใช้ความรุนแรง กลั่นแกล้ง หรือ ลงโทษในลักษณะทำให้นักเรียนอับอาย เช่น การตัดผมนักเรียนหน้าชั้นเรียน ซึ่งขัดต่อแนวทางการคุ้มครองสิทธิเด็ก

“ ในประเด็นการลดภาระงานของครู สพฐ.ขอย้ำให้สถานศึกษาปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 ที่ยกเว้นให้ครูไม่ต้องอยู่เวรโดยเด็ดขาด ผู้บริหารต้องไม่ใช้ถ้อยคำ หรือ คำสั่ง ในลักษณะใกล้เคียง เช่น “เวรความปลอดภัย” หรือ “เวรสมัครใจ” ซึ่งเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงขัดมติคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ เราต้องร่วมกันทำให้โรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่ราชการ เป็นพื้นที่ปลอดภัยอย่างแท้จริงสำหรับนักเรียน ครู บุคลากร และผู้ปกครอง ดังนั้น ขอให้เขตพื้นที่ฯ และสถานศึกษา สื่อสารทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่องถึงมาตรการด้านความปลอดภัย ทั้งในและนอกเวลาเรียน พร้อมกำหนดแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ เช่น จัดทำกลไกเฝ้าระวังบุคคลภายนอกเข้ามาก่อเหตุ ห้ามพกอาวุธ ห้ามนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในโรงเรียน แต่งกายสุภาพ และไม่ก่อความวุ่นวายในพื้นที่ราชการ หากมีการฝ่าฝืน ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง เพราะโรงเรียนคือพื้นที่เรียนรู้ที่ต้องปลอดภัย ที่จะสร้างการศึกษา เรียนดี มีความสุข ให้กับทุกคน” ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าว.

Loading