
วันที่ 18 มิถุนายน 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) มอบหมายให้ นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ว่าด้วย “การเชื่อมโยงและปรับปรุงฐานข้อมูลประชาชนในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการ และการจัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุตามสิทธิและสวัสดิการที่พึงได้รับรายบุคคล” โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล



พิธีลงนามดังกล่าวจัดขึ้นโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมีหน่วยงานร่วมลงนามรวมทั้งสิ้น 29 หน่วยงาน ประกอบด้วย 15 กระทรวง กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลอีก 12 แห่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการและเชื่อมโยงฐานข้อมูลของประชาชนในกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้มีรายได้น้อย ให้เป็นระบบเดียวกัน มีความถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์เชิงนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ซึ่งเห็นชอบให้ดำเนินการบูรณาการข้อมูลของประชาชนกลุ่มเปราะบางและคนพิการ จากหลายหน่วยงานให้เป็นระบบเดียวกัน รองรับการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการให้เงินสนับสนุนจำนวน 10,000 บาทแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ อีกทั้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 ยังได้เห็นชอบให้จัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุตามสิทธิและสวัสดิการรายบุคคล โดยมอบหมายให้กระทรวง พม. เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ Big Data Institute (BD) ในการสนับสนุนการดำเนินงานด้านข้อมูล



ฐานข้อมูลที่มีการรวบรวมและเชื่อมโยงจะครอบคลุม 5 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านรายได้ ด้านสุขภาพ ด้านสวัสดิการสังคม ด้านการมีงานทำ และด้านการศึกษา ทั้งนี้ การดำเนินการทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อคุ้มครองสิทธิและความเป็นส่วนตัวของประชาชนอย่างเคร่งครัด

ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับระบบข้อมูลของกลุ่มเปราะบาง และการนำเสนอวิดีทัศน์เกี่ยวกับการบูรณาการข้อมูล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการจัดสวัสดิการที่เหมาะสมและยั่งยืนสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในภาวะเปราะบางทางสังคม