
วันที่ 24 มิถุนายน 2568 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) ได้เข้าร่วมการประชุม PLC ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้ข้าราชการบำนาญ 19 จังหวัด มีสภาพคล่องทางการเงิน โดยร่วมกับศูนย์ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา (ศนค.) ด้วยความร่วมมือของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เจ้าหน้าที่การเงินของ สพท. และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจำจังหวัด เพื่อหาแนวทางการดำเนินงานของทั้งประเทศ สร้างความเข้าใจร่วมกัน กำหนดแนวทางปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในพื้นที่ สร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และยั่งยืนแก่ข้าราชการครูบำนาญที่ได้รับผลกระทบ โดยมี นายณรินทร์ ชำนาญดู คณะกรรมการการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย และประธานกรรมการดำเนินการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาญจนบุรี จำกัด นางลาวัลย์ ช่วงชัย อดีตผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาญจนบุรี จำกัด และคณะ เข้าร่วมให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติ พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้แทน ผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการ เจ้าหน้าที่สถานีแก้หนี้ครู ตัวแทนจากสหกรณ์ออมทรัพย์ และข้าราชการครูบำนาญ จาก 19 จังหวัด เข้าร่วมการประชุม

การประชุมในครั้งนี้ ได้สะท้อนถึงความร่วมมือและความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยได้ข้อยุติร่วมกันใน 3 มาตรการสำคัญ ได้แก่ 1. มาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง 2. การรวมบัญชีรายชื่อผู้ประสงค์จะของดการหักหนี้บำเหน็จตกทอด และ 3. การปลดล็อกการหักเงินกู้จากกรมบัญชีกลาง พร้อมทั้งมีข้อเสนอแนะให้จัดประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจในรายละเอียดของ 3 มาตรการนี้ และร่วมกันกำหนดแนวทางการช่วยเหลือข้าราชการบำนาญให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติ ซึ่งผลจากการประชุมในครั้งนี้ เกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม โดยกลุ่มสถานีแก้หนี้ครูต้นแบบและสถานีแก้หนี้ครูปลายทางทั้ง 18 สถานีได้ตกลงร่วมกันที่จะเร่งดำเนินการทันที เพื่อขับเคลื่อนการช่วยเหลือข้าราชการครูบำนาญให้เกิดผลอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

นางเกศทิพย์ ศุภวานิช กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของครูให้สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่วันที่ 7–8 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นมา ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีต รมว.ศธ., นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล อดีต รมช.ศธ., นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ และ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ที่เล็งเห็นถึงความเสียสละและคุณค่าของข้าราชการครู ซึ่งไม่ควรถูกทอดทิ้งให้ต้องเผชิญปัญหาเพียงลำพัง ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหานี้สำเร็จได้ด้วยความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะสหกรณ์ออมทรัพย์ครู และสถานีแก้หนี้ครูในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการประสานการปรับโครงสร้างหนี้ ให้คำปรึกษา และช่วยเหลือครูที่ประสบปัญหา ทั้งในกลุ่มทั่วไปและกลุ่มเปราะบาง ช่วยให้ครูกลับมามีความมั่นคงทางการเงินอีกครั้ง ถือเป็นความภาคภูมิใจร่วมกันของทุกฝ่าย ขอบคุณ ผอ. และ รอง ผอ.ศนค. สำหรับการทำงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงคณะผู้แทนจากจังหวัดต่าง ๆ ที่เข้าร่วม ได้แก่ นครพนม มุกดาหาร ศรีสะเกษ นครราชสีมา สุรินทร์ สุโขทัย ยโสธร หนองคาย ชัยภูมิ ตรัง กระบี่ ปราจีนบุรี ภูเก็ต ยะลา ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู อุดรธานี ลพบุรี และเพชรบูรณ์ และ ดร.ณรินทร์ ชำนาญดู ประธานกรรมการดำเนินการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาญจนบุรี จำกัด และคณะทำงาน ที่เป็นแบบอย่างของการดำเนินงานร่วมกับเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งสร้างผลลัพธ์เชิงประจักษ์ และความหวังให้แก่ข้าราชการครู

สิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายตระหนักคือ ปัญหาหนี้สินแต่ละกรณีมีความเฉพาะตัว ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง มีวินัยทางการเงิน และการประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงินในเชิงระบบ พร้อมทั้งใช้เครื่องมือทางกฎหมายอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดยเฉพาะในกลุ่มข้าราชการบำนาญที่ควรได้รับโอกาสในการหารือหาทางออกร่วมกัน ทั้งนี้ การดำเนินงานในลักษณะบูรณาการระหว่างสหกรณ์ออมทรัพย์ครู สถานีแก้หนี้ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ยังต้องขยายผลต่อเนื่อง และเชื่อมโยงกับหน่วยงานสำคัญ เช่น สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือ และได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากท่านอัยการปรเมศร์ อินทรชุมนุม ซึ่งเปิดพื้นที่ให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ ถือเป็นก้าวสำคัญของการวางแนวทางร่วมกัน






“สุดท้ายนี้ ขอเน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการเงิน ทั้งในรูปแบบการอบรมหลักสูตรวินัยทางการเงิน และการส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อปลูกฝังนิสัยการใช้เงินอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในกลุ่มครูบรรจุใหม่ ซึ่งเป็นกำลังหลักในอนาคต ด้วยความเชื่อมั่นว่าทุกปัญหามีทางออก ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านร่วมกันสานต่อนโยบายนี้อย่างมีความหวัง เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับครูไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว

ขณะที่เสียงสะท้อนจากผู้เข้าร่วมประชุมต่างพึงพอใจกับผลการประชุมในครั้งนี้ อาทิ ข้าราชการครูบำนาญท่านหนึ่งจากจังหวัดแพร่ กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจที่ได้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นเวทีที่ช่วยสร้างความหวังและทางออกสำหรับผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาหนี้สินอย่างแท้จริง ผมเชื่อมั่นว่า หากเราร่วมมือกันจะสามารถขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหานี้ได้สำเร็จ” ด้านข้าราชการครูบำนาญจากจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “วันนี้ได้รับข้อมูลและข้อเสนอแนะที่สามารถนำไปใช้ได้จริง รู้สึกมั่นใจว่าสถานีแก้หนี้ครูในพื้นที่จะสามารถช่วยพวกเราข้าราชการบำนาญได้อย่างตรงจุด ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้” และข้าราชการครูบำนาญจากจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า “ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งใจที่ได้รับการดูแลจากกระทรวงศึกษาธิการอย่างจริงจัง การประชุมวันนี้เปิดโอกาสให้พวกเราได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และได้รับการสนับสนุนที่เป็นรูปธรรม เชื่อว่านี่คือก้าวสำคัญในการช่วยเหลือข้าราชการบำนาญทั่วประเทศ”