เสมา 1 ปลื้ม ผลขับเคลื่อนยกระดับสู่สากล 18 เขต ตัวแทน สพฐ. เชื่อเข้มแข็งทั้งประเทศ

วันที่ 6 มิถุนายน 2568 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในกิจกรรมการนำเสนอผลการสร้างและพัฒนาข้อสอบแนวทาง PISA นำสู่การยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยมี นายธงชัย ชิวปรีชา ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการยกระดับ PISA ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายสมเจตน์ พันธ์พรม ผู้อำนวยการศูนย์ PISA สพฐ. พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่เข้ารับการอบรมขยายผลการสร้างข้อสอบแนวทาง PISA ผ่านระบบออนไลน์ รวม 18 เขตพื้นที่ ผู้อำนวยการโรงเรียนแกนนำ ครูและศึกษานิเทศก์แกนนำ และคณะทำงาน รวมทั้งสิ้นกว่า 60 คน เข้าร่วมแลกเปลี่ยน ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ

.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐานสากล ตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของกระทรวงศึกษาธิการ นำโดย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ. ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคล ตามหลักการจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิตและการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” และมีศักยภาพในระดับมาตรฐานสากล ซึ่งจากการขับเคลื่อนการสร้างและพัฒนาข้อสอบแนว PISA ในรูปแบบ On Demand “เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา” ตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568 โดยมีการขับเคลื่อนให้ผู้บริหาร ครู ศึกษานิเทศก์ และบุคลากรทางการศึกษา เข้ารับการอบรมแบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง จึงได้มีการคัดเลือกเขตพื้นที่ที่มีผลการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ใน 2 รูปแบบ รวม 18 เขตพื้นที่ เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนในระดับเขตพื้นที่ ต่อพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. และคณะทำงานขับเคลื่อนการยกระดับ PISA เพื่อแลกเปลี่ยนผลการดำเนินงาน และการพัฒนาต่อยอดการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพในระดับเขตพื้นที่ต่อไป

.

ซึ่งเขตพื้นที่ที่ร่วมแลกเปลี่ยนในวันนี้เกิดจากความก้าวหน้าของการขับเคลื่อนการอบรมการสร้างและพัฒนาข้อสอบแนว PISA ตามกำหนดเวลา (ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568) การให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนสำหรับกิจกรรมการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ รวมถึงผู้บริหารเขตพื้นที่มีการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง และติดตามอย่างต่อเนื่อง และมีการส่งเสริมการดำเนินงานของโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเขตพื้นที่ที่มีการขับเคลื่อนการอบรมการสร้างและพัฒนาข้อสอบ แนว PISA ในรูปแบบ On Demand ประกอบด้วย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาลพบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิษณุโลก อุตรดิตถ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปัตตานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอำนาจเจริญ

.

โอกาสนี้ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้พบกับทุกเขตพื้นที่ที่มานำเสนอในวันนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ก็ได้เห็นผลการดำเนินงานที่มีความสำเร็จคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ จึงขอฝาก ผอ.เขต ทุกคนให้มีความทุ่มเทในการทำงาน พร้อมเน้นย้ำนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ให้ทุกคนมีความสุขในการทำงาน และทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ซึ่งการดำเนินการในภาพรวม เราให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนการสอน แต่ผลของ PISA เป็นเรื่องของการวัดและประเมินผล ดังนั้น การดำเนินงานควรเน้นเพิ่มเติมไปที่ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียน และการนำไปใช้ในห้องเรียน เป็นโจทย์สำคัญของการยกระดับคุณภาพการศึกษา รวมถึงการตั้งโจทย์ หรือ ข้อคำถาม ที่นักเรียนสนใจ ตรงกับช่วงวัยของนักเรียน เพื่อเป็นการเร้าความสนใจของนักเรียนให้เกิดความคุ้นชิน ให้นักเรียนรักการอ่าน และได้อ่านในสิ่งที่ชอบ พร้อมทั้งชี้ให้นักเรียนเห็นถึงประโยชน์ของการสอบและการเรียนรู้ รวมถึงต้องทำให้ทราบถึงระดับของข้อสอบที่สอดคล้องกับระดับของนักเรียน นอกจากนี้ ยังถือว่าเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของการขับเคลื่อนงานคุณภาพการศึกษาในภาพรวมทั้งประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐานสากลได้จริง

.

“ทุกกระบวนการสอบ ไม่ว่าจะเป็น PISA, O-NET, NT, RT ล้วนเป็นสิ่งสำคัญ ขอให้ทุกเขตนำข้อแนะนำที่ได้รับในวันนี้ ไปปรับใช้ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ และให้ทุกเขตช่วยกันในการดำเนินการในมิติของการยกระดับคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานสากล โดยการใช้ข้อสอบแนวทาง PISA เป็นแบบทดสอบในกระบวนการจัดการเรียนการสอนแต่ละรายวิชา เป็นกระบวนการวัดผล เพื่อให้เกิดความฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ นำประเทศชาติสู่การพัฒนาในระดับสากลต่อไป” รมว.ศธ. กล่าว

.

ขณะที่นายธงชัย ชิวปรีชา ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการยกระดับ PISA ได้กล่าวชื่นชม และเห็นด้วยกับการขับเคลื่อนในระดับเขตพื้นที่ ที่ผู้บริหารสามารถสร้างข้อสอบแนว PISA ได้ จะทำให้การขับเคลื่อนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้เกิดความยั่งยืน โดยเน้นย้ำการนำข้อสอบไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน จากโจทย์ PISA ที่ออกแบบ นำไปใช้ในห้องเรียน สามารถจัดทำเป็นแบบฝึก และทำเป็นข้อสอบกลางภาคหรือปลายภาค และเพิ่มความเข้มข้นของการตอบเพื่อให้นักเรียนแสดงเหตุผลของการตอบได้ดีขึ้น ฝึกทักษะในการวิเคราะห์ การตีความ การแปลความของข้อมูล และนำมาปฏิบัติได้จริงเป็นรูปธรรม ทางด้านเขตพื้นที่ต้องหาวิธีการสร้างความมั่นใจ สร้างความฮึกโหมให้กับเด็กกลุ่มเป้าหมาย ให้เกิดความภาคภูมิใจในการเป็นตัวแทนของประเทศด้วย

.

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาความฉลาดรู้ของผู้เรียนตามแนวทางการประเมิน PISA พบว่ามีความก้าวหน้าในการขยายผลการอบรมการสร้างและพัฒนาข้อสอบฯ ในระดับเขตพื้นที่ โดยจากกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดจำนวน 445,624 คน มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 437,585 คน อยู่ระหว่างการอบรม 95,079 คน และอบรมเสร็จแล้ว 342,207 คน ในจำนวนนี้ได้มีการนำผลการอบรมการขยายผลการสร้างข้อสอบแนว PISA ไปใช้ในโรงเรียน อาทิ การตั้งคำถามกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียน การนำไปใช้เป็นแนวทางสร้างแบบวัดผลกลางภาค/ปลายภาค การนำข้อสอบที่สร้างไปใช้เป็นแบบฝึกนักเรียน การนำไปใช้ในการประเมินแบบ Formative ระหว่างเรียน และการประยุกต์ใช้กับ Gamification เป็นต้น และจะเดินหน้ายกระดับคุณภาพการศึกษาตามแนวทางประเมิน PISA เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียมในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

.

ด้านนางเกศทิพย์ ศุภวานิช ได้สรุปสาระสำคัญว่า ปัจจัยการขับเคลื่อนความสำเร็จ ประกอบด้วย ผู้นำในการลงมือปฏิบัติ และการมีเครือข่ายที่เข้มแข็ง รวมถึงสื่อในการขับเคลื่อน ที่ทำให้เกิดการคิด วิเคราะห์ นอกจากการที่ผู้นำและครูผู้สอนเข้ารับการอบรมการสร้างข้อสอบแนวทาง PISA ผ่านระบบออนไลน์ และสามารถสร้างสื่อเหล่านี้ได้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับครูนำลงสู่ห้องเรียนอย่างแท้จริง

Loading