วันที่ 12 มิถุนายน 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานในการประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดทำข่าวชี้แจงเพื่อแก้ไขภาพลักษณ์องค์กรอย่างมืออาชีพ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี นางวรางคณา ไชยเรือน ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ สพฐ. พร้อมด้วยนักประชาสัมพันธ์หรือผู้ปฏิบัติงานด้านการประชาสัมพันธ์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ จำนวน 245 คน แบ่งเป็น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน 183 เขต และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน 62 เขต รวมถึงคณะทำงานของศูนย์สารนิเทศการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะวิทยากรจากเขตพื้นที่ ได้แก่ นางฤทัยกัญญา ชูทอง นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ สพม.ตาก นายศตายุ วาดพิมาย นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ สพป.ตาก เขต 2 รวมทั้งสิ้น 260 คน เข้าร่วม ณ ห้องสตูดิโอ OBEC Channel และผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting
.
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเคยเป็นครู เคยอยู่โรงเรียนและเขตพื้นที่ จึงเข้าใจดีว่า เวลามีเหตุเกิดขึ้นในโรงเรียน ไม่ว่าดีหรือร้าย คนที่รับแรงกระแทกก่อนเสมอคือเขตพื้นที่ และในโลกปัจจุบันที่ข่าวสารไปไวกว่าเอกสารคำสั่ง เราไม่สามารถรอให้ส่วนกลางแถลงในทุกเรื่องได้ ซึ่งบางครั้ง โอกาสในการสร้างความเข้าใจมีอยู่แค่ชั่วโมงแรกหลังเกิดเหตุ อีกทั้งองค์กรของเราดูแลนักเรียนกว่า 29,000 แห่ง ครูและบุคลากรทางการศึกษากว่า 4 แสนคน นักเรียนอีกกว่า 6.3 ล้านคน ใน 245 เขตพื้นที่ ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ดังนั้น จึงไม่มีเหตุการณ์ใดเป็นเรื่องเล็ก เมื่อเกิดขึ้นในองค์กรขนาดใหญ่นี้ และในสถานการณ์เช่นนั้น คนที่คุมวิกฤติได้จริงคือคนที่สามารถสื่อสารได้แม่นยำที่สุดในเวลาที่สังคมต้องการคำตอบ การอบรมในวันนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคการเขียนข่าว หรือการแถลงให้ถูกลำดับ แต่คือการเตรียมสมรรถนะการสื่อสารในภาวะวิกฤตให้กับคนที่อยู่ด่านหน้า ซึ่งจะช่วยจำกัดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น และสามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างศรัทธาให้กลับมาได้
.
“นอกจากนี้ รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีเป้าหมายชัดเจนว่า เราต้องทำให้เด็กไทย “เรียนดี มีความสุข” หนึ่งในความสุขนั้น คือ โรงเรียนต้องได้รับความไว้วางใจจากสังคม ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราสื่อสารอย่างรับผิดชอบ ทันเหตุการณ์ และเป็นมืออาชีพ ดังนั้น ข้อความใดที่เป็นประโยชน์ต่อครู นักเรียน และโรงเรียน ขอให้ทุกคนช่วยกันเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ‘ทำดี ทำได้ ทำทันที’ สุดท้ายนี้ ผมเชื่อมั่นว่าการประชุมในวันนี้จะทำให้ทุกคนไม่ใช่แค่เข้าใจหน้าที่ แต่มีความภาคภูมิใจในบทบาทของตนเอง และไม่ใช่แค่รู้วิธีพูด/สื่อสาร แต่กล้าพูดอย่างมีพลังในเวลาที่องค์กรต้องการ และสามารถกลับไปเป็นผู้ปกป้องความเชื่อมั่นของสังคมต่อระบบการศึกษาไทย พร้อมทั้งเป็นพลังให้กับเขตพื้นที่ และ สพฐ. ต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
.
ด้านนางวรางคณา ไชยเรือน กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีนโยบายและแนวทางการดำเนินงานการประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยการสื่อสารประชาสัมพันธ์นโยบายและผลงานการจัดการศึกษาในทุกระดับ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ต่อต้านข่าวปลอม พัฒนาคลังข้อมูลข่าวสาร สร้างเครือข่ายช่องทางการติดต่อสื่อสารให้ประชาชนเข้าถึงข่าวสารองค์กรได้อย่างทั่วถึง รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านการประชาสัมพันธ์ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้การขับเคลื่อนภารกิจตามข้อสั่งการของเลขาธิการ กพฐ. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้นักประชาสัมพันธ์หรือผู้ปฏิบัติงานด้านการประชาสัมพันธ์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 245 เขต ได้รับการพัฒนาด้านการสื่อสารชี้แจงข่าวประเด็นสำคัญได้ทันต่อสถานการณ์ รวมถึงสามารถนำเทคโนโลยีการสื่อสารออนไลน์ในปัจจุบันมาเป็นกลไกสร้างความร่วมมือในการตอบรับชี้แจงประเด็นแก้ไขปัญหาในระดับต่าง ๆ ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ตามแนวทางของเลขาธิการ กพฐ. ที่ว่า “การสื่อสารประชาสัมพันธ์ สพฐ. ต้องเป็นต้นน้ำของข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน”
