สพฐ. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแนวทางการบริหารสินทรัพย์และคู่มือดำเนินการเกี่ยวกับที่ดิน ในความครอบครองใช้ประโยชน์ของหน่วยงานการศึกษาในสังกัด สพฐ.

วันที่ 16 มิถุนายน 2568 นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแนวทางการบริหารสินทรัพย์และคู่มือดำเนินการเกี่ยวกับที่ดิน ในความครอบครองใช้ประโยชน์ของหน่วยงานการศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมี นางสาวพัชรกันย์ เมธาอัครเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักการคลังและสินทรัพย์ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผน รวมถึงผู้อำนวยการกลุ่มของสำนักการคลังและสินทรัพย์ และผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รวมกว่า 40 คน เข้าร่วม ณ โรงแรมพระนครเฮอริเทจ กรุงเทพมหานคร
.
สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ จัดโดยสำนักการคลังและสินทรัพย์ เพื่อจัดทำแนวทางการบริหารสินทรัพย์และคู่มือดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินในความครอบครองและใช้ประโยชน์ของหน่วยงานการศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อให้การดำเนินงานด้านการบริหารสินทรัพย์ของหน่วยงานการศึกษา ในสังกัด สพฐ. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีแนวทางปฏิบัติในการดำเนินงานที่ชัดเจน รวมถึงการได้รับทราบข้อกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวทางปฏิบัติจากหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบและมีอำนาจหน้าที่ดูแลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่ดินของรัฐโดยตรง ได้แก่ กรมธนารักษ์ กรมที่ดิน และกรมป่าไม้ เป็นต้น
.
นายธีร์ ภวังคนันท์ กล่าวว่า เนื่องด้วย สพฐ. เป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ และมีหน่วยงานการศึกษาในทั่วทุกภูมิภาค โดยปัจจุบัน สพฐ. มีโรงเรียนในสังกัด รวมกว่า 29,082 แห่ง ดังนั้น หน่วยงานจึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือในการบริหารจัดการในเรื่องต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาหรือนำ AI มาใช้ในการทำงาน การใช้เทคโนโลยีในการรายงานข้อมูล การจัดทำคู่มือแนวทางปฏิบัติ ซึ่งจากการที่ตนได้มากำกับดูแล สำนักการคลังและสินทรัพย์ ก็ได้รับทราบถึงผลกระทบจากการใช้ประโยชน์ที่ดินของสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ที่ดินราชพัสดุ ที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ หรือกรณีการเกิดข้อพิพาทระหว่างสถานศึกษากับชุมชน ดังนั้น เราจะต้องบริหารทรัพยากรในเชิงรุกและป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดวินัย หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่ดินของรัฐ รวมถึงทำอย่างไรให้สามารถใช้ประโยชน์และเรียนรู้จากทรัพยากรที่มีได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่ ที่ดิน อาคารสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ หรือองค์ความรู้ ยกตัวอย่าง การทำเพาะปลูกการทำไร่กาแฟ และเปิดกิจการร้านกาแฟ (Cafe) การเปิดร้านคาร์แคร์ ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ตามนโยบาย “Learn to Earn” ส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ ของกระทรวงศึกษาธิการ ควบคู่ไปกับการจัดการเรียนการสอน โดยที่การปฏิบัติหรือการดำเนินการ ก็ต้องสอดคล้องและเป็นไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง จึงขอฝากให้คณะทำงานทุกท่าน ดำเนินการจัดทำคู่มือฯ ให้ประสบผลสำเร็จและสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง รวมถึงการขยายผลไปสู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ทุกแห่งต่อไป

Loading