วันที่ 16 ตุลาคม 2568 นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มอบหมายให้ นายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานเปิดการประชุมเสวนาแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการครูและข้าราชการบำนาญ ณ หอประชุมโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายคำพันธ์ บุญยึด ประธานจัดงานและประธานที่ปรึกษาสมาพันธ์ข้าราชการบำนาญภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวต้อนรับและดำเนินการประชุม
.
การเสวนาครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสมาชิกสมาพันธ์ข้าราชการบำนาญกว่า 400 คน ซึ่งได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านกฎหมาย การบริหารจัดการรายได้ และการฟื้นฟูศักยภาพทางการเงินของตนเอง โดยเฉพาะการนำระบบสหกรณ์ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการปรับโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน พร้อมสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างสมาชิกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การดำเนินงานได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สหกรณ์ออมทรัพย์ครู และสถาบันทางการเงินในพื้นที่ ซึ่งต่างมีเป้าหมายร่วมกันในการช่วยเหลือครูและข้าราชการบำนาญให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่มั่นคง มีศักดิ์ศรี และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
.
นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้แก่ ดร.ณรินทร์ ชำนาญดู ประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้เงินกู้สวัสดิการข้าราชการและพนักงานของรัฐ, ดร.พลพิพัฒน์ วัฒนเศรษฐานุกุล ผู้อำนวยการศูนย์ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา, นางลาวัลย์ ช่วงชัย อนุกรรมการและเลขานุการฯ, นายบุญธรรม เดชบุญ รองประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา, นายสมพิศ วรรณพงษ์ ครูต้นแบบผู้แก้ปัญหาหนี้สินสำเร็จ, นายเสน่ห์ ศิริเวช และนางนันท์ณภัส ปาโส คณะกรรมการแก้ไขหนี้สินของสมาพันธ์ฯ พร้อมด้วยนายดำเนิน เพียรค้า ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 1 ดร.สุริยนต์ กัลยาณี สพป.นครราชสีมา เขต 2 ดร.นภาพรรณ นาดี ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 4 ดร.ปฐมเกียรติ ไชยคำ ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 5 นางจารุนันท์ นาคุณทรง รอง ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 6 ดร.วัฒนชัย ถิรศิลาเวทย์ ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 7 ดร.ทิณกรณ์ ภูโทถ้ำ ผอ.สพม.นครราชสีมา และสถานีแก้หนี้ครู
.
ทั้งนี้ ศูนย์ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้สะท้อนผลงานอย่างเป็นรูปธรรมผ่านหลายโครงการสำคัญ อาทิ การอบรม OBEC Money Coach ซึ่งมีผู้เข้าอบรมแล้วกว่า 213,593 คนทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมความฉลาดรู้ทางการเงินและป้องกันการก่อหนี้ใหม่ การจัดตั้งเครือข่ายสถานีแก้หนี้ครู ครอบคลุมทุกภูมิภาค เพื่อให้คำปรึกษาและจัดทำแผนฟื้นฟูรายบุคคล การดำเนินการ OBEC Debt Center ที่ช่วยลดกลุ่มผู้ถูกฟ้องคดีลงได้ ร้อยละ 37.86 และเพิ่มจำนวนครูที่มีวินัยทางการเงินดีขึ้น ร้อยละ 7.62 รวมถึงการลงพื้นที่เจรจาปรับโครงสร้างหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือไม่เกิน ร้อยละ 4.75 และขยายเวลาผ่อนชำระอย่างเหมาะสม ผลลัพธ์ทั้งหมดสะท้อนถึงความสำเร็จของการทำงานเชิงระบบ ที่ช่วยให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถฟื้นฟูศักยภาพทางการเงิน และสร้างความยั่งยืนให้ชีวิตได้อย่างแท้จริง
