สพป.ตรัง เขต 2 ร่วมลงนามความร่วมมือ (MOU) “เขตพื้นที่การศึกษาต้นแบบโรงเรียนคำพ่อสอน”

วันที่ 10 มิถุนายน 2567 นางพัทธนันท์ นิลพัฒน์  ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 (สพป.ตรัง เขต 2) พร้อมด้วย ศึกษานิเทศก์ สพป.ตรัง เขต 2 นายวิเพลิน ชุมพล ผอ.โรงเรียนบ้านท่าส้ม คณะครูแกนนำ และนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าส้ม เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการและจัดทำ MOU โรงเรียนคำพ่อสอน สำหรับเขตพื้นที่ที่สมัครเข้าร่วมโครงการและมีโรงเรียนเป็นศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนคำพ่อสอน เพื่อพัฒนาเป็น “เขตพื้นที่การศึกษาต้นแบบโรงเรียนคำพ่อสอน” ให้นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข และปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า โดยมี ดร.ภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานและร่วมลงนาม พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) นางสาวอภิศา มะหะมาน ผู้จัดการโครงการ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ ตัวแทนจาก มศว. เข้าร่วม ณ หอประชุมคุรุสภา กรุงเทพมหานคร
 
ผอ.สพป.ตรัง เขต 2 ได้นำเสนอที่มาและการดำเนินงานของโรงเรียนคำพ่อสอน (โรงเรียนบ้านท่าส้ม อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง) ซึ่งได้สมัครเข้าร่วมเป็น “เขตพื้นที่การศึกษาต้นแบบโรงเรียนคำพ่อสอน” และเปิดศูนย์เรียนรู้และประสานงานโรงเรียนคำพ่อสอน เพื่อสานต่อคำสอนของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้เกิดประโยชน์ต่อนักเรียน สังคม ประเทศชาติ อีกทั้งเป็นการร่วมขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของประเทศ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และภาคี ซึ่งโครงการโรงเรียนคำพ่อสอนยังสอดคล้องกับนโยบาย และจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567-2568 และนโยบายระยะเร่งด่วน (Quick Win) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รวมถึงระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
 
สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) โดยโครงการโรงเรียนคำพ่อสอน  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ  (สสส.) ร่วมกับเครือข่ายครูดีไม่มีอบายมุข ได้ดำเนินการโครงการโรงเรียนคำพ่อสอน ในปี 2559 เพื่อน้อมถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องใน 70 ปี แห่งการครองราชย์ ด้วยการน้อมนำคำสอนของพระองค์เพื่อการปฏิรูปการศึกษา และคำสอนเพื่อการดำเนินชีวิตที่มิให้ตกเป็นทาสอบายมุข ลงสู่ภาคปฏิบัติในสถานศึกษา เพื่อให้นักเรียนเป็นคนดี มีศีลธรรม พึ่งตนได้ ปลอดอบายมุข และเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง (Self Esteem) ซึ่งนำไปสู่การเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ มีน้ำใจ ลดการบูลลี่ ลดความก้าวร้าวรุนแรง ลดพฤติกรรมเสี่ยง ต่อการไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า สารเสพติด อีกทั้งยังเกิดสัมพันธภาพที่ดีระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครอง และชุมชน
 
โครงการโรงเรียนคำพ่อสอนได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาจากจุดเล็กๆ และระเบิดจากข้างใน ตามที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานไว้ในหลักการทรงงาน โดยโครงการเริ่มต้นที่กระบวนการพัฒนาครูตามแนวทางจิตวิทยานีโอฮิวแมนนิส และกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ให้ครูเกิดความเข้าใจตนเองและเข้าใจจิตใจของนักเรียน จนนำไปสู่ความรักความเข้าใจระหว่างครูกับนักเรียนซึ่งเป็นการเปิดประตูแห่งการเรียนรู้