สพฐ. ร่วมงานแถลงข่าว งาน สีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ “30 ปี สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ใต้ร่มพระบารมี เพื่อปวงประชา”

วันที่ 3 สิงหาคม 2565 นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นประธานในการแถลงข่าว งาน สีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ “30 ปี สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ใต้ร่มพระบารมี เพื่อปวงประชา” พร้อมกับผู้บริหารแต่ละองค์กร ประกอบด้วย สำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช กรมป่าไม้ และมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สำหรับโครงการนี้ภาครัฐและเอกชน ร่วมมือกันจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2565 ณ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

โดย นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และ 27 หน่วยงาน ที่สำนึกในพระหากรุณาธิคุณมาร่วมกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจให้ประชาชน ได้รับทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระราชทานโครงการพระราชดำริตลอด 70 ปี เพื่อให้ประชาชนของพระองค์อยู่ดีกินดี มีสุขอย่างพอเพียง ซึ่งโครงการต่าง ๆ ที่มาแสดงเป็นเพียงน้อยนิด เมื่อเทียบกับโครงการพระราชดำริ กว่า 4,000 โครงการ ที่พระองค์ทรงสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร และโครงการพระราชดำริของพระองค์เอง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด และพัฒนาให้ยั่งยืนสืบไป

สำหรับโครงการในพระองค์ก็จะได้นำผลผลิต และผลิตภัณฑ์จากโครงการที่ทรงส่งเสริมความรู้ ให้เกษตรกร ตลอดจนส่งเสริมอาชีพให้ราษฎรมาจัดแสดงและจำหน่ายให้ประชาชน ได้ร่วมสนับสนุนราษฎรห่างไกลด้วย ทั้งโครงการฟาร์มตัวอย่าง โครงการหลวง มูลนิธิสายใจไทย และมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก”

ทางด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการ กพฐ. ได้รายงานผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมาว่า สพฐ. ดำเนินงานโครงการค่าย “เยาวชน…รักษ์พงไพร เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” สำหรับการดำเนินงาน โครงการฯ ปี 2565 นั้น ได้มีการเพิ่มศูนย์การเรียนรู้ โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ ในพื้นที่รับผิดชอบของ สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 1 รวมเป็น 32 ศูนย์ สามารถจัดค่ายได้รวม 64 ค่าย ผลพบว่า นักเรียน มีความสุข มีความรู้ ทักษะ พฤติกรรม และค่านิยมที่ดีด้านความเคารพรักในสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ และครูสามารถนำไปต่อยอดการเรียนรู้สู่โรงเรียนได้อย่างเป็นรูปธรรม

เพื่อสะท้อนภาพความสำเร็จ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายรวม 13 หน่วยงาน จัดนิทรรศการโครงการค่าย “เยาวชน…รักษ์พงไพร เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ในรูปแบบนิทรรศการมีชีวิตภายใต้แนวคิด 3 รักษ์ ดังนี้

1. ผลงานโรงเรียนที่ประสบผลสำเร็จในการต่อยอดขยายผลแบบ New Normal เช่น การต่อยอดชมรมเยาวชนรักษ์พงไพร สร้างโรงเรียนประทับใจ 3 รักษ์ เป็นต้น

2. การพัฒนาเครือข่ายเชิงพื้นที่รักษ์พงไพรในภูมิภาคต่าง ๆ ด้วยฐานทุนตามบริบท

3. การบูรณาการและต่อยอดการเรียนรู้สู่ทักษะอาชีพและวิถีชีวิตที่ยั่งยืน เช่น สร้างป่าสร้างรายได้ด้วยเห็ดและกาแฟ เป็นต้น และ

4. การสืบสาน รักษา และต่อยอด วิถีการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ต้นยางนา

โดยมีน้อง ๆ นักเรียนแกนนำที่ได้รับคัดเลือกจาก 32 ศูนย์ มาเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาผู้นำเยาวชนรักษ์พงไพร ระดับประเทศ จำนวน 61 คน เป็นวิทยากรประจำนิทรรศการและกราบบังคมทูลถวายรายงานผลการดำเนินงาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งถือเป็นมงคลชีวิตแก่นักเรียนและผู้เกี่ยวข้อง ในการสืบสานพระราชปณิธานต่อไป

กล่าวได้ว่า โครงการค่าย “เยาวชน..รักษ์พงไพร เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” เป็นหนึ่งในต้นแบบเครือข่ายความร่วมมือ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ที่ตอบโจทย์การพัฒนาการศึกษาได้เป็นอย่างดี ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน นักเรียน และผู้ปกครอง ทั้งจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงจากภูมิภาค หรือภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการฯ ประจำปี 2565 และเติมเต็มประสบการณ์ที่มีคุณค่าในงาน “สีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ 30 ปี สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ใต้ร่มพระบารมี เพื่อปวงประชา” เพื่อเป็นการร่วมกันเสริมสร้างรากฐานแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกันต่อไป