‘คุณหญิงกัลยา’ ให้โอวาทนักเรียนทุน KOSEN รุ่น 6 ปีการศึกษา 2566 ก่อนไปเรียนญี่ปุ่น 7 ปี

วันที่ 15 มีนาคม 2566 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ให้โอวาทนักเรียนทุนโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สนับสนุนการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค (KOSEN) รุ่นที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2566 จำนวน 24 คน ที่กำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อ ณ ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 7 ปี ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี นายนาชิดะ คาซูยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายอูชิดะ ทาเคชิ เลขานุการเอกสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายโกศล เพ็ชร์สุวรรณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิที่ปรึกษาคณะกรรมการพัฒนาโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ดร.กุศลิน มุสิกุล ผู้แทนสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายภูริวรรษ คำอ้ายกาวิน ผอ.สำนักบริหารงานความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา และผู้ปกครองของนักเรียนทุนฯ เข้าร่วม

ในโอกาสนี้ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. ได้รายงานความก้าวหน้าว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) กับสถาบัน KOSEN ประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 และ 4 ธันวาคม 2561 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการทุนการศึกษาต่อสำหรับนักเรียนกลุ่มโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย (โรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาค) ไปศึกษาต่อ ณ National Institute of Technology (KOSEN) ประเทศญี่ปุ่น รวมจำนวน 6 รุ่น 96 คน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ได้รับทุนดังกล่าว (รุ่น 1-5) รวมจำนวน 70 คน และนักเรียนทุน รุ่นที่ 6 จำนวน 24 คน ที่กำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อ ณ ประเทศญี่ปุ่น

ทางด้านคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศธ. กล่าวว่า จากการสอบแข่งขันคัดเลือกที่เข้มข้นตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้ได้นักเรียนที่มีความรู้ความสามารถ เหมาะสมที่จะได้รับทุนไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นจำนวน 24 คน ซึ่งเงินทุนที่จะส่งนักเรียนไปเรียนที่ญี่ปุ่น 7 ปีต่อเนื่องนี้ เป็นเงินกู้ของประเทศไทยจากภาษีของประชาชนทุกคน จึงอยากให้ตระหนักถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนด้านการศึกษาของประเทศไทย และขอชื่นชมทุกคนที่ตั้งใจเรียนจนกระทั่งประสบความสำเร็จ ได้โอกาสไปเรียนที่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่เจริญแล้วในหลายด้าน ขอให้ใช้โอกาสนี้ศึกษาทุกด้านนอกเหนือจากการเรียนหนังสือในโรงเรียน ทั้งด้านความเป็นอยู่ในชีวิต แนวความคิด ปรัชญาในการดำรงตน ภาษา วัฒนธรรม เป็นต้น

“โลกปัจจุบันพัฒนาอย่างก้าวกระโดดมาก วันนี้เราเรียนแบบนี้แต่เมื่อเรียนจบมาทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่จะไม่เปลี่ยนไป คือ วัฒนธรรม ประเพณีดีงาม และความเป็นมนุษย์ ซึ่งคนไทยมีต้นทุนที่ดีในด้านสังคมอยู่แล้ว จึงอยากฝากเรื่อง STEAM Education โดยใช้ A ที่หมายถึง Art of Life, Art of Living and Art of working Together ให้อยู่ในชีวิตประจำวันด้วย รวมทั้งขอบคุณผู้ปกครองที่อบรมลูกทุกคนให้เป็นคนดี เป็นความภูมิใจของประเทศไทยเหมือนกับรุ่นพี่ ซึ่งเราอาจจะไม่ต้องเก่งชนะทุกอย่าง หรือเป็นที่ 1 ทุกอย่าง แต่ว่าเราต้องทำดีให้ที่สุด เต็มความสามารถในทุกโอกาสและทุกเงื่อนไข ก็น่าจะนับว่าได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วสำหรับตัวเราเอง สำหรับครอบครัว และสำหรับประเทศชาติ” รมช.ศธ. กล่าว

พร้อมกันนี้ นายนาชิดะ คาซูยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้กล่าวต้อนรับนักเรียนทุนฯ ว่า รู้สึกประทับใจในความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่นของนักเรียนทั้ง 24 คน จากการแนะนำตัวของทุกคน โดยก่อนที่จะเข้ามาในห้องนี้ได้รับทราบมาว่า มีนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยที่ไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น สามารถสอบไล่ได้เป็นที่ 1 ของโรงเรียน สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยและคนญี่ปุ่นอย่างมาก และยังมีโอกาสเป็นผู้แทนประเทศญี่ปุ่นในการแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติด้วย จึงอยากให้ทุกคนมุ่งมั่นและตั้งใจเหมือนกับรุ่นพี่ที่สร้างชื่อเสียงและสร้างความภาคภูมิใจให้กับประชาชนชาวไทย

ทั้งนี้ การที่นักเรียนทั้ง 24 คน ได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นการยืนยันถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ หวังว่าทุกคนจะมีความพึงพอใจในการไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งในเรื่องของการศึกษา การวิจัยในสถาบันโคเซ็นที่จะท้าทายความรู้ความสามารถ การพัฒนาตนเองเพื่อเป็นนักประดิษฐ์ คิดค้นและวิจัย พร้อมปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตในประเทศญี่ปุ่น โดยเรื่องของภาษา ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรม อาจเป็นสิ่งที่ยังไม่คุ้นเคย แต่เชื่อมั่นว่าทุกคนจะสามารถเอาชนะปัญหาและความยากลำบากที่เกิดขึ้น และมีความสุขในการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เหมือนกับรุ่นพี่ที่กำลังกลับมาในประเทศไทย เพื่อนำความรู้ความสามารถมาใช้พัฒนาภาคส่วนต่าง ๆ ของประเทศไทย ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการศึกษา ตลอดจนหวังว่าทุกคนจะเป็นผู้นำของประเทศได้ในอนาคต