ดร.อนันต์ พันนึก ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ.เปิดงาน Kick Off ประวัติศาสตร์“อุตรดิตถ์เมืองงาม สามวัฒนธรรม” สู่การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1

21 มิถุนายน 2566 ดร.อนันต์ พันนึก ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานเปิดโครงการขับขับเคลื่อนประวัติศาสตร์ ชื่อกิจกรรม Kick Off ประวัติศาสตร์“อุตรดิตถ์เมืองงาม สามวัฒนธรรม” สู่การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ณ บริเวณวัดบรมธาตุ ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล ซึ่งเป็นวัดประจำเมืองทุ่งยั้งมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ โดยเมืองทุ่งยั้งในปัจจุบันถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยติดต่อกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยก่อนการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย นายมงคล รุณธาตุ ผู้อำนวยการ สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ว่าการขับเคลื่อนการเรียนรู้ประวัติศาสตร์สู่ผู้เรียน เป็น 1 ใน 10 นโยบายเร่งด่วน สพฐ.QUICK POLICY 2565 สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 ตระหนักถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายอย่างเร่งด่วนและจริงจัง โดยกิจกรรมแรก สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 ได้จัดทำปฏิทินประวัติศาสตร์“อุตรดิตถ์เมืองงาม สามวัฒนธรรม”รูปแบบตั้งโต๊ะเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ตามกรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่นของแต่ละโรงเรียน รวมทั้งมอบให้กับส่วนราชการเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ กิจกรรมที่ 2 ในวันนี้ เป็นความร่วมมือของ สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1และทุกโรงเรียนในสังกัด เพื่อกระตุ้นให้ทั้งคุณครูและผู้เรียนเห็นถึงความสำคัญในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ในรูปแบบนิทรรศการและการแสดงของลูกๆ นักเรียน จากสถานศึกษา ทั้ง 5 อำเภอในสังกัดเพื่อบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของแต่ละอำเภอ ตลอดจนส่งเสริมให้โรงเรียนนำผลงานของลูกๆ นักเรียนมาแสดงเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และยกย่อง ชมเชยความคิดสร้างสรรค์ของลูกๆ นักเรียนตามความรู้ ความสามารถ และทักษะเฉพาะตนของผู้เรียน โดย ดร.อนันต์ พันนึก ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. พร้อมด้วย ดร.วรัญญภรณ์ ชาลีรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญ สพฐ.พร้อมคณะ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการ และชมการแสดงของนักเรียน พร้อมทั้งกล่าวชื่นชม  นายมงคล รุณธาตุ ผู้อำนวยการ สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 นายปกิจพจน์ กมลวรเดช และ ดร.ละออ วันจิ๋ว รองผู้อำนวยการ สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 นำเยี่ยมชม มีผู้อำนวยการโรงเรียน ครู และนักเรียน ร่วมรายงานข้อมูล โดยมี ดร.วัฒนชัย ถิรศิลาเวทย์ ผู้อำนวยการ สพป.อุตรดิตถ์ เขต 2 และคณะร่วมชมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน