เลขาธิการ กพฐ. “ธนุ” ร่วมทีม มท.1 “อนุทิน” และเสมา 1 “เพิ่มพูน” ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ร่วมคณะผู้บริหาร นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในการลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. รวมถึงผู้บริหารส่วนราชการท้องถิ่น อาทิ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 4,000 คน ณ โรงเรียนกำแพง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ

โอกาสนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล พร้อมมอบแนวนโยบายด้านการศึกษา โดยพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ได้เน้นย้ำถึงแนวนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ “เรียนดี มีความสุข” โดยการลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา ลดภาระค่าใช้จ่ายของนักเรียนและผู้ปกครอง ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา (Anywhere Anytime) ตามแนวทาง “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” และเยี่ยมชมนิทรรศการการจัดแสดงผลงานของโรงเรียนตามแนวนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ที่โรงเรียนได้ส่งเสริมทั้งในด้านดนตรี กีฬา วิชาการ ฯลฯ

นอกจากนั้น ยังได้นำเสนอรูปแบบมาตรการความปลอดภัยในโรงเรียนตามแนวนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ใน 3 ด้าน ดังนี้ 1. การรักษาความปลอดภัย จัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อาทิ ยาม นักการภารโรง ทำหน้าที่ยามรักษาการณ์ตรวจสอบความเรียบร้อยภายในโรงเรียน ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทุมพรพิสัย จัดสายตรวจ เพื่อดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยโดยรอบโรงเรียน และมีกล้องวงจรปิด (CCTV) เพิ่มไฟส่องสว่างครอบคลุมทุกพื้นที่ในบริเวณโรงเรียน 2. การเข้า-ออกโรงเรียน ได้กำหนดเวลาเปิด-ปิด ประตูโรงเรียน เวลา 05.00-19.00 น. และกำหนดเวลาเปิด-ปิดอาคารเรียน เวลา 06.00-17.30 น. หากมีกิจกรรมที่ต้องดำเนินการบนอาคารนอกเหนือจากเวลาที่กำหนด ให้ทำหนังสือขออนุญาตจากผู้อำนวยการสถานศึกษาเป็นรายกรณี และ 3. มีการสร้างเครือข่ายเบอร์สายด่วน เพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉินในสถานศึกษาได้อย่างทันท่วงที

นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า ภาพของศรีสะเกษในอนาคตอันใกล้ คือ การเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักอีกเมืองหนึ่งในประเทศ วันนี้เราต้องคิดถึงการสร้างเอกลักษณ์ หรือการทำเอกลักษณ์ที่มีอยู่แล้วให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ให้กลายเป็นภาพจำที่ชัดเจน โดยใช้ประโยชน์จากต้นทุน ทั้งในด้านวัฒนธรรม ความรู้ความสามารถ และเสน่ห์ของผู้คน รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว ผลิตผลจากเกษตรกรรม และสินค้าจากความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ ทั้งที่มีอยู่แล้ว และที่เราจะต่อยอดต่อไป โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษจะต้องนำทีมข้าราชการและบุคลากรในสังกัดทุกท่าน ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ทำอย่างไรจะต่อยอดให้ต้นทุนนั้นนำไปสู่ดอกผลที่งอกงาม เพิ่มคุณค่า เพิ่มรายได้ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับชาวศรีสะเกษ ทั้งนี้ ศรีสะเกษจะไม่ใช่เมืองที่คนผ่านมาแล้วผ่านไป ต้องเป็นเมืองที่คนชื่นชมความงดงามของศรีสะเกษ ต้องแวะท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในเพชรเม็ดงามของภาคอีสานและความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน

“อีกเรื่องที่สำคัญที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ในขณะนี้ คือเรื่องของการแก้ปัญหายาเสพติด ขอฝากพี่น้องประชาชนต้องช่วยกันบอกลูกหลานว่าอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ช่วยกันปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนได้รู้โทษของยาเสพติด ห่างไกลยาเสพติดทุกชนิด โดยมุ่งส่งเสริมการทำกิจกรรม ฝึกให้เขากล้าแสดงออก ดังเช่นนักเรียนวงโยธวาทิต วงมโหรี ของโรงเรียนกำแพงแห่งนี้ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ถือเป็นการฝึกวินัย มีผู้นำ มีผู้ตาม ทำงานเป็นทีม เพื่อเป็นพื้นฐานหนุนเสริมการเป็นพลเมืองผู้พัฒนาบ้านเมืองให้มีความเจริญรุ่งเรืองต่อไป” นายอนุทินฯ กล่าว

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : Facebook เพจ กระทรวงมหาดไทย PR , สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร

ภาพ : Facebook เพจ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร