“สุรศักดิ์” นำทีมผู้บริหาร ศธ. ร่วม ครม.สัญจร ติดตามผลการทำงานตามนโยบายด้านการศึกษาของรัฐบาล

วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ที่วิทยาลัยสารพัดช่างเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายส่วนราชการทางการศึกษาติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ในการลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3/2567 กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ประกอบด้วยจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อาทิ นายนพ ชีวานันท์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพิษณุ พลธี ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายกมล รอดคล้าย ประธานคณะทำงาน รมช.ศธ. และผู้บริหารของ สพฐ. ได้แก่ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. ศึกษาธิการจังหวัด ทั้ง 4 จังหวัด รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาของแต่ละจังหวัด มีผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้บริหารสถานศึกษา เข้าร่วมประชุมทั้งในห้องประชุม และแบบออนไลน์ รวมกว่า 500 คน พร้อมเยี่ยมชมบูธนิทรรศการผลงานนักศึกษาอาชีวศึกษา จากวิทยาลัยต่างๆ ในจังหวัดเพชรบุรี

.

นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้รับฟังผลการดำเนินงาน ความคิดเห็นและการสะท้อนปัญหาที่แตกต่างกันของในแต่ละจังหวัด ซึ่งทุกอย่างที่เป็นปัญหาจะนำเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อให้ได้รับการแก้ไข เพื่อประโยชน์ของผู้เรียนและครู โดยกระทรวงศึกษาธิการยุคนี้เป็นยุคที่เปิดใจรับฟังมากขึ้น เราพยายามหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เป็นปัญหาเรื้อรังอย่างเต็มที่ อะไรที่ทำได้เราจะทำทันที ซึ่งตั้งแต่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. และตนเข้ามาปฎิบัติหน้าที่รัฐมนตรีได้ 7-8 เดือนแล้ว นโยบายที่เราให้ไว้ตั้งแต่เข้าทำงานวันแรก คือ นโยบายลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และผู้ปกครอง เราก็ทำให้เห็นแล้วว่าเกิดขึ้นได้จริง โดยเฉพาะการยกเลิกครูเวรโรงเรียน การเพิ่มงบประมาณอาหารกลางวันนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในกลุ่มโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา รวมถึงการอนุมัติงบฯจ้างนักการภารโรง ซึ่งไม่มีมานานแล้ว

.

รมช.ศธ. กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของสถานีแก้หนี้ครูของเขตพื้นที่การศึกษา ก็ถือว่าดำเนินการได้ดี ซึ่งขณะนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูหลายแห่งได้มีการลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ครูที่เป็นหนี้ด้วย ทั้งนี้ ครูที่เป็นหนี้ต้องเปิดใจเข้ารับการรักษาที่สถานีแก้หนี้ครู เปรียบเสมือนคนป่วยไปหาหมอที่โรงพยาบาล เพื่อที่จะได้รักษาอย่างถูกวิธี

.

นอกจากนี้ ในส่วนของปัญหาการจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก มีผลวิจัยของหลายหน่วยงานสอดรับกันว่า การอุดหนุนรายหัวในปัจจุบันอาจยังไม่สามารถตอบโจทย์และแก้ปัญหาของโรงเรียนขนาดเล็กได้ ดังนั้นจึงมีแนวคิดว่าการเปลี่ยนแปลงเงินอุดหนุนรายหัวน่าจะช่วยแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กได้ โดยอุดหนุนเงินก้อนให้แก่โรงเรียนขนาดเล็กไปก่อนเป็นเบื้องต้นแล้วค่อยให้เงินอุดหนุนรายหัวตามไปอีกเพื่อให้โรงเรียนมีเงินเพียงพอที่จะเป็นค่าใช้จ่ายค่าสาธารณูปโภค ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการจะประสานหารือกับสำนักงบประมาณก่อน หากคุยสำเร็จก็จะนำเสนอ ครม. เพื่อพิจารณาต่อไป ขณะเดียวกันกลุ่มเด็กเล็กหรือเด็กปฐมวัย ได้รับเงินอุดหนุนค่อนข้างน้อย แต่ถ้ามองมุมกลับพัฒนาการของกลุ่มเด็กเล็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ซึ่งในประเด็นนี้ รมว.ศธ. จึงมีแนวคิดที่จะปรับเงินอุดหนุนสำหรับเด็กปฐมวัยใหม่

.

“ส่วนนโยบาย 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ ผมอยากให้เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพจริงๆ ซึ่งผมคิดว่าหลักเกณฑ์การรับบุคลากรมาอยู่ในโรงเรียนคุณภาพ จะต้องให้มีการคัดคนคุณภาพตามไปด้วย และถ้าโรงเรียนมีคุณภาพได้ครบทุกอำเภอ เราก็จะขยายไปถึงโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2567 จะเป็นการพลิกโฉมการศึกษาไทย ที่จะเริ่มการจัดแพลตฟอร์มเนื้อหาสาระการเรียนรู้ที่จะรองรับการแจกอุปกรณ์เสริมการสอนของครูและนักเรียนในปี 2568 ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มบริษัทด้านไอทีระดับโลกให้ความสนใจที่จะเข้ามาร่วมมือด้านการศึกษาในเรื่องดังกล่าว โดยการแจกอุปกรณ์เสริมการสอนที่ทันสมัยมาพร้อมกับการใช้งานระบบ Wi-Fi โดยที่ไม่เป็นภาระให้แก่โรงเรียน ซึ่งการแจกอุปกรณ์ดังกล่าวจะเป็นระบบของการเช่า เพื่อไม่ให้เป็นภาระของโรงเรียนเมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าก็สามารถคืนอุปกรณ์ได้ทันทีไม่กลายเป็นขยะไอที สุดท้ายนี้ ผมขอฝากนโยบาย “สุขาดี มีความสุข” โดยขอให้สถานศึกษาทุกแห่งทำมาตรฐานห้องน้ำครู และห้องน้ำนักเรียนอย่างเท่าเทียมกัน เป็นห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะ สะอาดปลอดภัยด้วย“ รมช.ศธ.กล่าว