สพฐ. จับมือภาคีเครือข่าย “โรงเรียนคำพ่อสอน” สร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กห่างไกลเหล้า-บุหรี่

วันที่ 10 มิถุนายน 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) มอบหมายให้ นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ.) ร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) “เขตพื้นที่การศึกษาต้นแบบโรงเรียนคำพ่อสอน” ระหว่างสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในสังกัด สพฐ. 5 เขต กับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และศูนย์เรียนรู้และประสานงานเครือข่ายโรงเรียนคำพ่อสอน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมบุณยเกตุ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ

.

โครงการโรงเรียนคำพ่อสอน เป็นโครงการภายใต้สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยออกแบบแนวทางเพื่อให้เด็กมีภูมิคุ้มกันเพื่อรับมือวิกฤตข้างต้น ซึ่งโครงการโรงเรียนคำพ่อสอน ได้ดำเนินการในปี 2559 มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาจากจุดเล็กๆ และระเบิดจากข้างใน ตามที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานไว้ในหลักการทรงงาน โดยน้อมนำกระแสพระราชดำรัสเพื่อปฏิรูปการศึกษา ใจความว่า “..ให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู ให้ครูสอนเด็กให้มีน้ำใจกับเพื่อน ไม่ให้แข่งขันกัน แค่ให้แข่งกับตัวเอง ให้เด็กที่เรียนเก่งกว่าช่วยสอนเพื่อนที่เรียนช้ากว่า ให้ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนทำร่วมกันเพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี..”

.

ทั้งนี้ โครงการโรงเรียนคำพ่อสอน ยังสอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567-2568 และนโยบายระยะเร่งด่วน (Quick Win) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และสามารถสานต่อคำสอนของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านการปฏิรูปการศึกษาให้ลงสู่เด็กไทยได้ ให้เกิดประโยชน์ต่อเด็ก สังคม ประเทศชาติ อีกทั้งเป็นการร่วมขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของประเทศ และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ซึ่งมีข้อเกี่ยวข้องกับนักสูบหน้าใหม่และผู้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นเยาวชน นักเรียน และนักศึกษา ในสถานศึกษา และกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีประกาศ เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษา โดยให้สถานศึกษาทุกแห่งเป็นสถานศึกษาปลอดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 100%

.

สำหรับพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) ครั้งนี้ มีหน่วยงานที่ร่วมลงนาม ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์เรียนรู้และประสานงานเครือข่ายโรงเรียนคำพ่อสอน จ.เชียงใหม่ ศูนย์เรียนรู้และประสานงานเครือข่ายโรงเรียนคำพ่อสอน จ.สมุทรสาคร ศูนย์เรียนรู้และประสานงานเครือข่ายโรงเรียนคำพ่อสอน จ.ชุมพร ศูนย์เรียนรู้และประสานงานเครือข่ายโรงเรียนคำพ่อสอน จ.สงขลา และ (เตรียม)ศูนย์เรียนรู้และประสานงานเครือข่ายโรงเรียนคำพ่อสอน จ.ตรัง

.

โดยมี ข้อตกลงร่วมกัน ดังนี้

1. สนับสนุนให้มีการดำเนินงานตามแนวทางโรงเรียนคำพ่อสอนตามคู่มือโรงเรียนคำพ่อสอน

2. สนับสนุนให้ครูแกนนำโรงเรียนคำพ่อสอน อบรมตามหลักสูตรจิตวิทยานีโอฮิวแมนนิส หลักสูตรงาน พลังกลุ่ม และความสุข หลักสูตรการพึ่งตนบนความพอเพียง

3. สนับสนุนให้ครูแกนนำ นำนักเรียนแกนนำมาร่วมเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพ

4. สนับสนุนให้มีบุคลากรของเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้ทำงานร่วมกับโรงเรียนและคณาจารย์ผู้ทำวิจัยจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในการประสานความร่วมมือ ติดตามหนุนเสริมการขับเคลื่อนงานและสื่อสารไปยังเขตอย่างต่อเนื่อง

5. สนับสนุนให้เกิดการรณรงค์ให้ครูลด ละ เลิก สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

6. สนับสนุนให้การจัดงานเลี้ยงวันครู และวันเกษียณอายุราชการในสังกัด ปลอดเหล้า เบียร์ บุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า

7. สนับสนุนให้โรงเรียนในสังกัดมีการจัดสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้ปลอดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามกฎหมายกำหนด และห้ามจำหน่ายบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษา รวมถึงเฝ้าระวังมิให้มีการสูบบุหรี่และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณสถานศึกษา เพื่อป้องกันการริเริ่มสูบบุหรี่และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเยาวชน

8. งดเข้าร่วมกิจกรรม หรืองดรับการสนับสนุนใดๆ จากผู้ประกอบการธุรกิจยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

9. สนับสนุนให้บุคลากรในสังกัดเข้าร่วมกิจกรรมกับโรงเรียนเครือข่ายตามความเหมาะสม