สพฐ. ติดตาม รมช.ศธ. เปิดงาน “มหกรรมสิ่งประดิษฐ์ด้านไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น” และการประชุมวิชาการ Thailand – Japan Student ICT Fair (TJ-SIF 2019)

วันที่ 20 ธันวาคม 2562 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานในพิธีเปิด “งานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ด้านไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น และการประชุมวิชาการ” Thailand – Japan Student ICT Fair (TJ-SIF 2019) โดยมี นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวต้อนรับ นายมาซาฮารุ คูบะ เลขานุการเอก สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย กล่าวแสดงความยินดี และ นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ประธานคณะกรรมการพัฒนาโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย และประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ด้านไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น และการประชุมวิชาการ Thailand – Japan Student ICT Fair (TJ-SIF 2019) กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์การจัดงาน ณ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดมุกดาหาร

สำหรับ “งานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ด้านไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น และการประชุมวิชาการ” Thailand – Japan Student ICT Fair (TJ-SIF 2019) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 ธันวาคม 2562 โดยมีโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน ภายใต้การสนับสนุนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือ JICA และสถาบัน KOSEN และความร่วมมือภาคีเครือข่าย กระทรวงศึกษาธิการประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย JICA, KOSEN, สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พร้อมด้วยโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย 12 แห่งทั่วประเทศ ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงตลอดการจัดงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีนำเสนอและแลกเปลี่ยนผลงานวิชาการและสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมด้าน ICT ของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น โดยมีโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนที่เน้นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทย จำนวน 32 โรงเรียน ได้แก่ กลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย กลุ่มโรงเรียนในโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ฯ กลุ่มโรงเรียนในโครงการ พสวท. และ วมว. เป็นต้น และสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น จำนวน 26 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียน Super Science High School จำนวน 15 แห่ง และ สถาบัน KOSEN จำนวน 11 แห่ง ร่วมนำเสนอโครงงานสิ่งประดิษฐ์ด้าน ICT จำนวน 136 โครงงาน รวมจำนวนผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 591 คน

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศธ. กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการให้โอกาสอันมีค่าแก่คุณครูไทยและญี่ปุ่น รวมทั้งนักเรียนไทยและญี่ปุ่นในการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานวิจัยที่มีคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ ขอขอบคุณทุกคนสำหรับความพยายามและความร่วมมือในการจัดกิจกรรมทางวิชาการในครั้งนี้ ด้วยขณะนี้พวกเราอยู่ในยุคสังคมดิจิทัลที่เทคโนโลยีนั้นได้ฝังลึกลงไปในการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ ระบบปฏิบัติการใหม่ ๆ ด้านสื่อมัลติมีเดีย ข้อมูลและการสื่อสารถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยนวัตกรรมเหล่านี้ก็ได้เข้ามามีอำนาจเหนือมนุษยชาติในหลายๆ ด้าน เป็นไปตามความสำคัญของเทคโนโลยีต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งการให้การศึกษาแก่คนรุ่นใหม่เพื่อที่จะได้รับความรู้ทั้งในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม จะส่งผลดีต่ออนาคตของพวกเขาเอง ตนเชื่อมั่นว่านี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลหลักในการจัดงาน Thailand-Japan Student ICT Fair 2019 ด้วยการให้ความสำคัญในเรื่องของข้อมูลข่าวสาร การสื่อสารและเทคโนโลยี คาดหวังว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะทำให้คุณครูและนักเรียน จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยและ super science high school จะเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านของการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ ผ่านการเรียนรู้ร่วมกัน

ด้านนายมาซาฮารุ คูบะ เลขานุการเอก สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในนามของรัฐบาลญี่ปุ่นรู้สึกเป็นเกียรติอย่างเป็นที่ได้มาร่วมงานในวันนี้ และรู้สึกยินดียิ่งที่ได้รับเชิญให้กล่าวสุนทรพจน์ ในหัวข้อ “Thai-Japanese relations with strong supports on science and technology education” ซึ่งการให้ความสนใจกับงานด้าน ICT เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการจุดประกายและสร้างวิสัยทัศน์ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมปลายสำหรับอาชีพในอนาคต การสร้างความสนใจด้านวิทยาศาสตร์ให้แก่ผู้เรียนจะนำไปสู่การพัฒนาในอนาคตสำหรับทั้งสองประเทศ ตนมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความช่วยเหลือและความร่วมมือจะไม่ได้เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนและสร้างงานวิจัยร่วมกัน แต่ยังมีการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม โดยเฉพาะกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยทั้ง 12 แห่ง กับ Super science high school ของญี่ปุ่นและสถาบันโคเซ็น

นอกจากนั้น การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศคงอยู่ต่อไป ตนเชื่อว่างาน ICT Fair 2019 นี้ จะให้ประโยชน์อย่างสูงกับทั้งสองฝ่าย และเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนทั้งสองประเทศ พวกเราทุกคนไม่ควรที่จะละเลยคุณค่าของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ แต่พวกเราควรศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาและทะนุถนอมความสัมพันธ์นี้ไว้ให้คนรุ่นต่อ ๆ ไป พวกเราควรที่จะเรียนรู้กันและกัน และทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มความร่วมมือเพื่อที่จะเอาชนะความยากลำบากต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญในอนาคตอันใกล้ แล้วทั้งคนไทยและญี่ปุ่นก็จะได้ยินดีกับผลที่งอกงามจากความร่วมมืออันดีนี้ ขอให้ทั้งนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่นใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ ICT application ในการทำ smart farming จากการไปทัศนศึกษารอบจังหวัดมุกดาหารต่อไป

ขณะที่ นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดงาน ICT Fair 2019 ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการนำเสนอผลงานด้าน ICT ของนักเรียนที่เกิดจากการพัฒนาต่อยอดสมรรถนะและความสามารถเชิงสร้างสรรค์ด้านวิทยาการคำนวณและ ICT เพื่อยกระดับความรู้ความสามารถของนักเรียนด้าน Digital Technology โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการนำทักษะทาง Digital literacy มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่อไป สำหรับโครงงานที่ได้นำเสนอในงานนี้ประกอบไปด้วยหลากหลายสาขา อาทิ IoT Application, Robotics, Automotive, Software and Smart Electronics ตนคาดหวังว่านักเรียนทุกคนจะได้รับประโยชน์จากการนำเสนอโครงงานในครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่าการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ จะยกระดับประสบการณ์ด้านการศึกษาเรียนรู้ของผู้เรียน ในการพัฒนาระบบการศึกษาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-learning และ ระบบปฏิบัติการอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งเป็นการแบ่งปันแหล่งการเรียนรู้ระหว่างสถาบันการศึกษา ช่วยส่งเสริมกระบวนการจัดการเรียนการสอน และให้ความสำคัญกับประเด็นที่สอดคล้องกับความต้องการและความสนใจของผู้เรียนในยุคปัจจุบัน

ประชาสัมพันธ์ สพป.มุกดาหาร /ข่าว
ปาริชาติ รอบคอบ ประชาสัมพันธ์ สพป.มุกดาหาร /ภาพ