สพฐ. รับมอบทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2563 ให้กับโรงเรียนในโครงการจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาธุรกิจค้าปลีก ในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. จากบริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน)

วันที่ 9 กันยายน 2563 นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานรับมอบทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2563 ให้กับโรงเรียนในโครงการจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาธุรกิจค้าปลีก ในสถานศึกษา สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 15,332,000 บาท จากนายวิเชียร เนียมน้อม ผู้แทนผู้บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) พร้อมคณะ โดยมี นายสมศักดิ์ ทองเนียม ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย ตัวแทนผู้บริหารและนักเรียนจากโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ได้แก่ โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน และโรงเรียนราชดําริ เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ

นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สพฐ. ขอชื่นชมและขอบคุณ บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่มีส่วนร่วมพัฒนาด้านการศึกษาของนักเรียน โดยได้ดําเนินการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนในโครงการจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาธุรกิจค้าปลีก ในสถานศึกษา สังกัด สพฐ. ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 จนถึงปัจจุบัน นับได้ว่าเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างมาก เพราะนอกจากนักเรียนจะได้เรียนรู้ทฤษฎี ควบคู่ไปกับการลงมือปฏิบัติจริงแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะอาชีพเพิ่มเติม สามารถสร้างรายได้ระหว่างเรียน ส่งผลให้เกิดความภาคภูมิใจในศักยภาพของตนเอง สำหรับปีการศึกษา 2563 นี้ บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) ก็ได้จัดสรรทุนการศึกษาให้กับนักเรียน ในโรงเรียนสังกัด สพฐ. ตามโครงการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15,332,000 บาท ทั้งนี้ สพฐ. จะนำเงินที่ได้รับไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ต่อไป

ด้าน นายวิเชียร เนียมน้อม ผู้แทนผู้บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) ได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนตามโครงการการจัดการเรียนการสอนด้านพาณิชยกรรม สาขาธุรกิจค้าปลีก ในสถานศึกษา สังกัด สพฐ. ที่จัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการส่งเสริมอาชีพที่สอดคล้องกับนโยบายหลักของรัฐบาลด้านการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย โดยให้จัดการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทํางาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนให้มีความพร้อมทั้งทักษะความรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิตก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน ถือเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียน และเป็นการส่งเสริมผู้เรียนให้มีรายได้จากการฝึกอาชีพ อีกทั้ง เมื่อจบการศึกษาสามารถเข้าทํางานที่ ร้านสะดวกซื้อและบริษัทในเครือ หรือศึกษาต่อในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องในระดับที่สูงขึ้นได้ โดยปัจจุบันมีนักเรียนในระบบแล้วกว่า 1,825 คน

ฐิติมา รายงาน