2 ก.พ.2562 ที่โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ กทม. สถาบันทดสอบทางการศึกษาศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) จัดให้มีการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต ประจำปีการศึกษา 2561 สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สอบในวันที่ 2 ก.พ. 2562 ประกาศผลสอบวันที่ 25 มี.ค. 2562 และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สอบในวันที่ 2-3 ก.พ.2562 ประกาศผลสอบวันที่ 26 มี.ค. 2562
ดร.ทรายทอง พวกสันเทียะ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทน ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน ) กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2561 การทดสอบ โอเน็ต ป.6 ผู้มีสิทธิ์สอบ 790,210 คน มีศูนย์สอบ 186 ศูนย์ สนามสอบ 4,108 สนาม ห้องสอบ 28,959 ห้อง ส่วนการสอบ โอเน็ต ม.3 มีผู้มีสิทธิ์สอบ 696,457 คน มีศูนย์สอบ 227 ศูนย์ สนามสอบ 4,135 สนาม ห้องสอบ 25,341 ห้อง ซึ่งการสอบโอเน็ตของชั้น ป.6 และ ม.3 สอบ 4 วิชา ได้แก่ วิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ สทศ.จะประกาศผลสอบโอเน็ต ชั้น ป.6 ในวันที่ 25 มี.ค.62 และ ม.3 วันที่ 26 มี.ค.62 ผ่านทางเว็บไซต์ สทศ. www.niets.or.th สำหรับการสอบโอเน็ตในปีนี้ที่สนามสอบ รร.พิบูลอุปถัมภ์ มีนักเรียนเข้าสอบ จำนวน 128 คน ซึ่งเด็กทุกคนมาสอบครบทั้งหมดไม่มีตัวเลขเด็กขาดสอบ โดยภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่ง สทศ.ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การจัดสอบครั้งนี้มีความเรียบร้อยโปร่งใสและเป็นระบบ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
ดร.ทรายทอง กล่าวต่อไปว่า สำหรับเด็กที่ขาดสอบไม่สามารถมาสอบในรอบปกติได้นั้น สทศ. จะจัดสอบรอบพิเศษในภายหลังการสอบโอเน็ตรอบปกติเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเปิดสอบรอบพิเศษได้ในวันที่ 5-6 มี.ค.62 โดยผู้ที่พลาดการสอบรอบปกติสามารถติดตามประกาศได้ทางเว็บไซต์ของ สทศ. ต่อไป ทั้งนี้จะต้องมีเหตุผลความจำเป็นฉุกเฉินเท่านั้น โดยข้อสอบที่ใช้ในการสอบรอบพิเศษจะไม่เกิดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากการออกข้อสอบใช้วิธีการออกข้อสอบแบบคู่ขนาน ใช้ตัวชี้วัดแบบเดียวกันและมีความยากง่ายเท่ากัน ซึ่งจะมีการประกาศผลพร้อมกัน
ด้าน ดร.วิษณุ ทรัพย์สมบัติ ผอ.สำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า ในส่วนของ สพฐ.ได้ประสานไปยังเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เพื่อให้ความร่วมมือในการบริหารจัดการสอบกับ สทศ. ซึ่งการสอบโอเน็ตเราใช้ข้อสอบอัตนัย 20% เพราะจะทำให้เด็กคิดวิเคราะห์เป็นมากขึ้น รวมถึงการเรียนการสอนในห้องเรียนก็จะเชื่อมโยงกับการสอบโอเน็ตด้วย
ขณะเดียวกันเมื่อสอบเสร็จจะมีการเผยแพร่ข้อสอบโอเน็ต ซึ่ง สพฐ.จะนำข้อสอบมาวิเคราะห์ใช้สอนในห้องเรียน เพื่อวิเคราะห์ว่าเด็กของเรามีจุดอ่อนจุดแข็งในวิชาใดบ้าง และนำมาประมวลผลแก้ไขต่อไป สำหรับวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 นั้น สพฐ. ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับโรงเรียนต่างๆ ที่เป็นสนามสอบและอยู่ในจุดเสี่ยงวิกฤตฝุ่น ให้เตรียมความพร้อมให้ดี และแจกหน้ากากอนามัยป้องกันเด็ก โดยเบื้องต้นสนามสอบที่อยู่ในพื้นที่วิกฤตฝุ่นยังไม่พบเด็กขาดสอบแต่อย่างใด