กระทรวงศึกษาธิการจัดกิจกรรม “สามัคคีสัมพันธ์ สานฝันห้องเรียนกีฬา” ครั้งที่ 3

กระทรวงศึกษาธิการจัดกิจกรรม “สามัคคีสัมพันธ์ สานฝันห้องเรียนกีฬา” ครั้งที่ 3วันที่ 1 ตุลาคม 2561 พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิด โครงการ “สามัคคีสัมพันธ์ สานฝันห้องเรียนกีฬา” ครั้งที่ 3 ณ สนามอินดอร์สเตเดียมหัวหมาก กรุงเทพฯ โดยมี พล.อ.สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ,นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมทั้งคณาจารย์ นักเรียนจากโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และโครงการห้องเรียนกีฬาจากทั่วประเทศเข้าร่วม จำนวน 21 โรงเรียน จำนวน 2,639 คน

กระทรวงศึกษาธิการ ได้นำนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สร้างโอกาสแก่เด็ก นักเรียน และเยาวชนที่มีความสามารถด้านกีฬาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้นอกจากการให้ความสำคัญทางการศึกษาแล้ว การเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เล่นกีฬาควบคู่ไปกับการเรียนนับว่าเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนได้พัฒนาศักยภาพตนเองเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้นำการกีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษาไปสู่การปฏิบัติ โดยมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รับไปดำเนินการ และได้เริ่มโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาชายแดนภาคใต้ขึ้น ตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 ซึ่งในปัจจุบันได้ขยายผลการดำเนินงานโครงการข้างต้นออกไปทั่วทุกภูมิภาค และเกิดเป็น “โครงการห้องเรียนกีฬา” ที่เน้นการพัฒนาความสามารถด้านกีฬาควบคู่ไปกับวิชาการ ทั้งแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-กีฬา และแผนการเรียนศิลป์ภาษา-กีฬา โดยให้นักเรียนที่มีรูปร่างสูงใหญ่ได้เข้ารับการศึกษา ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาและโภชนาการที่เหมาะสม รวมถึงการฝึกซ้อมอย่างเป็นระบบมาเป็นฐานในการพัฒนาศักยภาพของนักเรียน พร้อมสนับสนุนทุนการศึกษาให้นักเรียนจนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาชายแดนภาคใต้ เปิดการเรียนการสอนใน 12 โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ รวมนักเรียน 1,366 คน และโครงการห้องเรียนกีฬา เปิดการเรียนการสอนใน ภูมิภาคที่เหลือทั่วประเทศ จำนวน 9 โรงเรียน รวมนักเรียนทั้งสิ้น 1,182 คน โดยกระทรวงศึกษาธิการมุ่งหวังที่จะผลิตนักกีฬาอาชีพ โค้ช กรรมการและผู้ตัดสินกีฬา รวมทั้งครูพลศึกษา ที่มีความรู้ความสามารถ มีอุดมการณ์ เปี่ยมไปด้วยวินัย คุณธรรมและจริยธรรม เป็นพลเมืองที่ดีของชาติต่อไป


พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศธ. กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่นักเรียนในโครงการฯได้มาพบปะกันในวันนี้ ซึ่งนักเรียนทุกคนจะได้ตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่ได้ทรงปกป้องคุ้มครองรักษาชาติบ้านเมืองพัฒนาประเทศให้เข้มแข็งมั่นคงจนถึงรุ่นปัจจุบันนี้ ทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทด้านการศึกษาในเรื่องของการจัดการศึกษาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น เพราะการเจริญของชาติขึ้นอยู่กับการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงเรื่องของการกีฬาที่ได้เคยพระราชทานพระบรมราโชวาทว่า การกีฬานั้นเป็นอุปกรณ์การศึกษาที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นการกล่อมเกลาให้เด็กมีจิตใจอดทน กล้าหาญ รู้แพ้รู้ชนะ เช่นเดียวกับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ได้ทรงมีพระราชปณิธานที่จะสืบสานต่อยอดศาสตร์พระราชาในเรื่องการศึกษา ที่ต้องมุ่งให้ผู้เรียนสร้างพื้นฐาน 4 ด้าน ในเรื่องการสร้างทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมือง ให้ยึดมั่นในสถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ รู้รักสามัคคี มีลักษณะพื้นฐานที่มั่นคง มีคุณธรรมจริยธรรมในชีวิต เมื่อเรียนแล้วมีอาชีพมีงานทำและเป็นพลเมืองดี ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ รัฐบาลปัจจุบันนำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้น้อมนำศาสตร์พระราชาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินงานของส่วนราชการต่างๆ โดยกำหนดให้มียุทธศาสตร์ชาติเพื่อวางแผนความมั่นคงในระยะยาว ทำให้ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ ความสามารถในการแข่งขัน เรื่องการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีความเจริญก้าวหน้า รวมทั้งการสร้างโอกาสความเสมอภาค ทำให้คุณภาพชีวิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องใช้ความรับรู้ความเข้าใจและเกิดความร่วมมือสามัคคีกัน

“จากการที่มาร่วมงานในวันนี้ของนักเรียน 2 โครงการ ทั้งโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 12 โรงเรียน ที่ได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 4 ปีสู่การขยายผลไปยังโรงเรียนต่างๆ อีก 9 โรงเรียน ในโครงการห้องเรียนกีฬา จะเห็นได้ว่าเป็นการทำงานอย่างต่อเนื่องในด้านการสร้างโอกาส ส่งเสริมขีดความสามารถ พัฒนาการศึกษาและพัฒนาการกีฬา ซึ่งถือเป็นการนำการกีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรมตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงศึกษาธิการได้มอบให้ สพฐ. ดำเนินการอย่างเต็มกำลัง เพื่อเป็นการจุดประกายความฝันมุ่งมั่นสู่อนาคตปรากฏสู่ความสำเร็จของเด็กนักเรียนและเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขยายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ เป็นเส้นทางสู่ฝันสรรค์สร้างแรงบันดาลใจนักกีฬาไทยสู่สากล ซึ่งเกิดจากความตั้งใจของทุกฝ่ายทั้งผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระดับพื้นที่ คณะครูอาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน โดยได้รับความร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้การสนับสนุน รวมถึงภาคประชาชนที่ให้การสนับสนุนในด้านกำลังใจอีกด้วย ซึ่งการทำให้การศึกษาของนักเรียนและเยาวชนควบคู่ไปกับการกีฬาประสบความสำเร็จและก้าวหน้าอย่างที่เห็นในปัจจุบันนั้น ก็เพื่อให้นักเรียนได้เจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีความรู้รักสามัคคี มีความสมัครสมานปรองดอง ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญ เป็นเยาวชนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของชาติอย่างมีคุณภาพต่อไป” รมช.ศธ. กล่าว

ขณะที่ นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า โครงการสานฝันการกีฬาฯ และโครงการห้องเรียนกีฬา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง จึงทำให้ผู้ปกครองสนใจส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนมากขึ้นในทุกภาคการศึกษา โดยปัจจุบันมีนักเรียนจำนวนกว่า 2,800 คน ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้จัดโครงการ “สามัคคีสัมพันธ์ สานฝันห้องเรียนกีฬา” เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนทั้งสองโครงการได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมผ่านการแข่งขันกีฬาแห่งมิตรภาพ รวมทั้งได้ศึกษาศาสตร์พระราชาเพื่อน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ โดยกิจกรรมในโครงการประกอบด้วยการแข่งขันกีฬาฟุตบอลระหว่างทีมนักเรียนโครงการห้องเรียนกีฬา รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปีและทีมนักเรียนในโครงการสานฝันฯ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี กับทีมเมืองทองยูไนเต็ด และการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงระหว่างทีมนักเรียนโครงการห้องเรียนกีฬาและทีมยุวชนทีมชาติไทย ณ สนามอินดอร์สเตเดียมหัวหมาก นอกจากนั้นยังมีการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ศาสตร์พระราชาในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและจังหวัดชลบุรี รวมทั้งการแสดงพหุวัฒนธรรมของนักเรียนในโครงการซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษที่จะแสดงความสามารถด้านศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลายของนักเรียนที่ร่วมโครงการในครั้งนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยมิตรภาพความรักความสามัคคีผ่านการแข่งขันกีฬาฟุตบอลและวอลเลย์บอล พร้อมทั้งตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในเรื่องของการปฏิรูปการศึกษา โดยใช้กีฬาเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาสังคมสร้างลักษณะนิสัยที่ดีในการเป็นนักกีฬาและพัฒนาความรู้ทักษะจนสามารถประกอบอาชีพในอนาคตได้

“สำหรับโครงการ “สามัคคีสัมพันธ์ สานฝันห้องเรียนกีฬา” ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 6 ตุลาคม 2561 นี้ นอกจากกิจกรรมต่างๆ ภายในงานที่น่าสนใจแล้ว ในวันที่ 5 ตุลาคม 2561 ยังมีการบรรยายจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ในหัวข้อนักกีฬายุค 4.0 “การสร้างอัตลักษณ์ของนักกีฬา สู่การสร้างตัวตนบนโลกอินเทอร์เน็ต” และการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาในการพัฒนาตนเอง จากนั้นในเวลา 15.30 น. นักเรียนทั้ง 2 โครงการจะได้รับฟังโอวาทจาก พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ณ อาคารอิมแพค ฟอรั่ม (Hall 9) อิมแพค เมืองทองธานี อีกด้วย” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

ทีม ปชส.โครงการ “สามัคคีสัมพันธ์ สานฝันห้องเรียนกีฬา”ภาพ/ข่าว