“อัมพร” ลุยสั่งการ สพฐ. ช่วยน้ำท่วม ลงพื้นที่ช่วยนักเรียนทุกครัวเรือนอย่างเร่งด่วน

วันที่ 20 ตุลาคม 2565 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) และโฆษก สพฐ. เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. ให้ลงพื้นที่ช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน จึงได้ทำแผนดำเนินการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วม ร่วมกับผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และทีมจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) รวมทั้งเครือข่ายที่ประสงค์ร่วมทำ CSR เช่น นักศึกษา วปอ. 65 โดยในวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและส่งมอบถุงปันน้ำใจฯ ให้กับนักเรียน ครูและบุคลากรของโรงเรียนในเขตพื้นที่ สพป.สิงห์บุรี และ สพม.สิงห์บุรี-อ่างทอง โดยโรงเรียนที่ได้ตรวจเยี่ยม ได้แก่ โรงเรียนวัดโบสถ์ (สพป. สิงห์บุรี) โรงเรียนอินทร์บุรี โรงเรียนพรหมบุรีรัชดาภิเษกซึ่งเป็นศูนย์พักพิงให้ชุมชน โรงเรียนปาโมกข์วิทยาภูมิ (สพม. สิงห์บุรี-อ่างทอง) จากนั้นในวันนี้ (20 ตุลาคม) ได้ลงพื้นที่เขต สพม.สระบุรี ณ โรงเรียนบ้านหมอ “พัฒนานุกูล” และสพป.สระบุรี เขต 1 ณ โรงเรียนวัดโคกงาม โรงเรียนบ้านครัว (ซีเมนต์ไทยสงเคราะห์) และโรงเรียนวัดช้าง ตามลำดับ

สำหรับการลงพื้นที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ได้ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมของ รร.อินทร์บุรี และ รร.วัดโบสถ์ พร้อมให้กำลังใจและมอบถุงปันน้ำใจ พร้อมทีม ปภ. ที่ช่วยอำนวยความสะดวก ซึ่งในส่วนของ รร.อินทร์บุรี ระดับน้ำท่วมมีความสูงประมาณ 2.30 เมตร เมื่อวัดจากบริเวณสนามฟุตบอลของโรงเรียน และบริเวณโดยทั่วไปของโรงเรียน ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 2 เมตร มีผู้ประสบอุทกภัย ประกอบด้วย นักเรียน 428 คน ครูและบุคลากร 44 คน รวมทั้งสิ้น 427 คน ทางด้าน รร.วัดโบสถ์ มีน้ำท่วมสูงประมาณ 1.6 เมตร มีจำนวนครัวเรือนของนักเรียนและครูที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เป็นนักเรียน 600 คน ครูและบุคลากรฯ 25 คน ขณะที่ รร.พรหมบุรีรัชดาภิเษก และชุมชนใน อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ได้ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วม ร่วมกับผู้บริหารและบุคลากรจิตอาสาของเขตพื้นที่ โดยมีศึกษาธิการจังหวัดอ่างทอง ผอ./รอง ผอ. สพม.สิงห์บุรี อ่างทอง ผอ.สพป.อ่างทอง ศน. ผอ.โรงเรียน และครู ประธานกรรมการสถานศึกษา ทีมพื้นที่ ร่วมลงพื้นที่ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น โดย รร.พรหมบุรีรัชดาภิเษก มีปริมาณน้ำท่วมสูงสุดถึง 1.5 เมตร แต่ได้จัดสถานที่เป็นศูนย์พักพิงให้กับคนในชุมชนบริเวณใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้พักอาศัย ซึ่งกำนันมีส่วนช่วยเหลือโรงเรียนเป็นอย่างมาก ทั้งการนำอาหารและเครื่องดื่มมาให้กับครูที่ดูแลศูนย์พักพิง และในช่วงที่น้ำไม่ท่วม ก็มีส่วนช่วยในการพัฒนาศูนย์อารยเกษตร และมีหน่วยงานภายนอกเข้าให้การช่วยเหลือนักเรียนและชุมชน เช่น กองทัพเรือ ที่มอบถุงยังชีพและส่งทหารเรือมาประจำที่ศูนย์พักพิง และยังมี พม.สิงห์บุรี ศิษย์เก่า วัดและบริษัทห้างร้านต่างๆ ที่ให้การสนับสนุนเครื่องอุปโภคให้กับศูนย์พักพิง และในส่วนของชุมชนใน อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง รองเลขาธิการ กพฐ. ได้เยี่ยมบ้านนักเรียน ครูและบุคลากรฯ รร.ปาโมกข์วิทยาภูมิ ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมกว่า 80% บริเวณชุมชนที่นักเรียนอาศัยอยู่ มีน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร นักเรียนและประชาชนในบริเวณดังกล่าว ได้รับผลกระทบอย่างมาก นักเรียนอาศัยอยู่ในบ้านที่มีการหนุนให้สูงขึ้น โดย ผอ.รร. และครูที่อยู่ในพื้นที่ รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล มีการติดตามนักเรียนตลอดเวลาด้วยความใส่ใจ และเข้าถึงความเป็นอยู่นักเรียนในการเป็นพ่อแม่คนที่สองได้เป็นอย่างดี

ภายหลังการลงพื้นที่ จ.สิงห์บุรี และ จ.อ่างทอง นางเกศทิพย์ กล่าวว่า จากการที่ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการ กพฐ. ให้ลงพื้นที่ช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ พบว่า ผอ.รร. ที่ประสบภัย ได้เตรียมพร้อม และดำเนินการรับมือสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งแก้ไขปัญหาได้อย่างดี ทำให้ครุภัณฑ์ต่างๆ เกิดความเสียหายไม่มากนัก ยกเว้นสิ่งที่ย้ายไม่ได้ที่เกิดความเสียหายบางส่วน เนื่องจากน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. ในช่วงดึก มีมวลน้ำมาเร็วมาก เหตุจากเขื่อนดินแม่น้ำเจ้าพระยาพัง และโรงเรียนน้ำท่วมมากกว่า 2 เมตร ทางด้าน ผอ.สพป.สิงห์บุรี และ ผอ.สพม.สิงห์บุรี อ่างทอง ก็ได้ร่วมแก้ไขและสนับสนุน ผอ.รร. ที่ประสบภัยได้อย่างดีเยี่ยม มีการจัดระบบการรายงานและช่วยเหลือ ประสานงานเครือข่ายร่วมกันได้อย่างดี มีการรวมใจร่วมกันตั้งกองทุนปันน้ำใจเพื่อระดมทุนช่วยเหลือนักเรียนและบุคลากรที่ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ และได้ดำเนินการช่วยเหลือไปแล้วในเบื้องต้น ขณะที่ ผอ.สพป.อ่างทอง เป็นคนพื้นที่ จึงรู้จักและเข้าใจวิถีชีวิต และเครือข่ายในพื้นที่เป็นอย่างดี ซึ่งรู้การรับมือกับน้ำท่วม ทำให้มีการเตรียมการล่วงหน้าและเฝ้าระวังในพื้นที่ที่น้ำจะเข้ามาได้เป็นอย่างดี

จากนั้นในการลงพื้นที่ จ.สระบุรี ในวันนี้ ซึ่งได้ร่วมกับเครือข่าย นศ.วปอ. ได้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจโรงเรียนบ้านครัวและโรงเรียนวัดช้าง รวมถึงครอบครัวนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ประสบอุทกภัย ในเขตอำเภอพระพุทธบาท อำเภอบ้านหมอ อำเภอดอนพุด จำนวน 3 แห่ง มีครูที่ได้รับผลกระทบ 14 ครอบครัว นักเรียนจำนวน 108 ครอบครัว ปัญหาที่พบคือ อาคารเรียน โรงอาหารและอาคารประกอบ ได้รับความเสียหายบางส่วน ระบบการป้องกันและระบบระบายน้ำไม่เพียงพอ สนามกีฬาได้รับความเสียหายบางส่วน แต่วันนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ปริมาณน้ำลดลง ในระยะต่อไปจึงได้ให้คำแนะนำในการฟื้นฟู เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดภาคเรียนในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งทางเขตพื้นที่ สพม.สระบุรี และ สพป.สระบุรี ก็ได้เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้โรงเรียนและนักเรียนมีความพร้อมในการเรียนรู้ โดยจากการตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านครัว พบว่าโรงเรียนได้มีการจัดโครงการห้องเรียนอารยเกษตร ให้นักเรียนได้มีโอกาสทำกิจกรรมผ่านการเรียนแบบ Active Learning นักเรียนได้ทำการเกษตรปลูกผัก ปลูกข้าว และเลี้ยงสัตว์ แต่พบว่าผลจากน้ำท่วมทำให้เกิดความเสียหายต่อแปลงเกษตรและพื้นที่ที่ทำนา ซึ่งทีมของโรงเรียนขยายโอกาสในสังกัด สพป.สระบุรี เขต 1 จำนวน 13 โรงเรียน จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือในด้านการทำความสะอาดและการฟื้นฟูในด้านต่างๆ ให้กับโรงเรียนบ้านครัว แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาไปด้วยกัน

ขณะที่การตรวจเยี่ยมโรงเรียนวัดช้าง รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวชื่นชมผู้อำนวยการโรงเรียนซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ 6 เดือน เข้ากับชุมชนได้ชุมชนที่เข้มแข็งและหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ เข้ามาสนับสนุนการจัดการศึกษา และช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่เกิดจากอุทกภัยครั้งนี้อย่างสมัครสมานสามัคคีกัน

“จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้เห็นภาพความร่วมมือร่วมใจกันของทุกคนในพื้นที่ ทั้งโรงเรียน วัด และชุมชน ที่ต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกันแม้ในยามลำบาก ทางด้าน ผอ.เขตพื้นที่ ก็ได้ช่วยเหลือ ผอ.รร. อย่างเต็มความสามารถ มีการประสานเครือข่ายอย่างเข้มแข็ง พร้อมกันนี้ ต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนในท้องที่ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม อาทิ กองทัพเรือ กองทัพบกหน่วยปืนใหญ่ลพบุรี ตำรวจ ท้องถิ่น และเครือข่ายนักศึกษา วปอ. 65 ซึ่งเป็นภาพที่ชัดเจนของการร่วมมือร่วมใจกันโดยไม่แบ่งแยกหน่วยงาน โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันเพื่อช่วยเหลือ ดูแล สนับสนุน ให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างดีที่สุด และทุกๆ คนเข้าสู่สภาวะปกติได้เร็วที่สุด ได้เห็นในความมีน้ำใจของผู้เกี่ยวข้องทุกคน เป็นภาพที่ดีมีการแบ่งปันกันแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ความเป็นคนไทย ได้อย่างดีงามค่ะ” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว