สพฐ. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงพัฒนาคุณภาพการศึกษาพื้นที่นาโต่

พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการสนับสนุนช่วยเหลือโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ระหว่าง สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงราย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 36 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 3 อาชีวศึกษาจังหวัดเชียงราย สำนักงาน กศน. จังหวัดเชียงราย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กับ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 4 รอบ 2 เมษายน 2546 สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 กองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนฯ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศธ. กล่าวว่า พิธีลงนามในครั้งนี้ เป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบูรณาการการจัดการศึกษาพื้นที่นาโต่ สืบเนื่องจากพระราชกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีความห่วงใยในด้านการศึกษาของนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่สูง ทุรกันดารห่างไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในเรื่องโอกาสการเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเสมอภาค สามารถจบการศึกษาตามหลักสูตร และได้รับการพัฒนาทางด้านทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ มีงานทำประกอบอาชีพและมีรายได้ในบริบทพื้นถิ่นของตนเอง

 

 

ทั้งนี้ หน่วยงานทางการศึกษา ทั้งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และภาคเอกชน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้น้อมรับพระราชกระแสรับสั่งและหารือแนวทางความร่วมมือในการจัดการศึกษาในรูปแบบของการบูรณาการตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับอาชีวศึกษา รวมทั้งความร่วมมือในการสนับสนุนปัจจัยในทุกๆ ด้าน ที่จะส่งผลต่อคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้สูงขึ้น โดยมีแนวทางในการพัฒนา 3 ข้อ ได้แก่ 1. การพัฒนานักเรียนให้มีทักษะทางด้านภาษาไทย ให้สามารถอ่านออกเขียนได้ และมีความพร้อมในการเรียนรู้ด้านอื่นๆ โดยจัดในรูปแบบกิจกรรมค่าย ในต้นเดือนพฤษภาคมนี้ 2. การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน และเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ มีการเชื่อมโยงความรู้ ทักษะพื้นฐาน ทักษะอาชีพ ให้สอดคล้องต่อเนื่องจากระดับประถมศึกษาจนถึงระดับอาชีวศึกษา เพื่อให้นักเรียนสามารถประกอบอาชีพได้ตามความสนใจ ตามความต้องการของชุมชนพื้นถิ่น มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยจะเริ่มใช้หลักสูตรที่ได้รับการพัฒนานี้ในปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป และ 3. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของโรงเรียนให้มีความพร้อมในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งจะมีการกำหนดกิจกรรมการพัฒนาที่ครอบคลุมแนวทางการพัฒนาทั้ง 3 ประเด็น และมีการกำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดำเนินงานอย่างชัดเจนต่อไป

รมช.ศธ. ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า โดยส่วนตัวรู้สึกมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นภาพการทำงานเชิงบูรณาการของหน่วยงานหลายๆ หน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเป้าหมายสำคัญในเรื่องการพัฒนาและสร้างคนที่มีคุณภาพให้กับประเทศ ทุกหน่วยงานได้นำความรู้ความสามารถปัจจัยพื้นฐานที่ตนเองมีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ในการจัดการศึกษารูปแบบของการบูรณาการตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงอาชีวศึกษา และก้าวข้ามผ่านปัญหาการบริหารจัดการของหน่วยงานไปได้ ซึ่งรูปแบบการทำงานนี้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานของหน่วยงานในพื้นที่อื่นๆ ที่มีบริบทและสภาพใกล้เคียงหรือเหมือนกันได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาของประเทศ

“สิ่งสำคัญในการดำเนินงานก็คือ หลังจากที่ไม่มีการทำข้อตกลงระหว่างหน่วยงานต่างๆ แล้ว ขอให้ยึดหลักในการทำงานที่ต้องมีความรวดเร็ว รอบคอบ รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาทักษะทางด้านภาษาไทย เพื่อให้นักเรียนสามารถอ่านออกเขียนได้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการเรียนในวิชาอื่นๆ รวมถึงการปรับหลักสูตร พัฒนาหลักสูตร และการจัดการเรียนการสอน จะต้องคิดให้รอบด้านโดยยึดสภาพบริบทของพื้นที่ ความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และสังคมไทย อีกทั้งการสนับสนุนปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ต้องคิดให้รอบคอบว่า มีความคุ้มค่า คุ้มเวลา เหมาะสมกับพื้นที่หรือไม่ หากทุกหน่วยงานมีการดำเนินการตามแนวทางนี้ก็จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียมในการจัดการศึกษาได้ ทางด้านพ่อแม่ผู้ปกครองและชุมชนก็จะมีโรงเรียนดีๆ ให้การศึกษาแก่บุตรหลานในพื้นที่โดยไม่ต้องเดินทางไปเรียนในอำเภอหรือจังหวัดที่ห่างไกลอีกต่อไป” รมช.ศธ. กล่าว

ข่าว อัจฉรา ปชส.สพฐ. / ภาพ คณะประชาสัมพันธ์ สพท. เชียงราย