สพฐ. ตั้งศูนย์แก้หนี้ครู เล็งนำร่องช่วยกลุ่มวิกฤตลำดับแรก

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สพฐ. (DOC) อาคาร สพฐ. 5 ชั้น 9 กระทรวงศึกษาธิการ

นายธีร์ ภวังคนันท์ กล่าวว่า ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ตั้งอยู่บริเวณอาคาร สพฐ. 1 ชั้น 1 กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะเป็นศูนย์ปฏิบัติการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ รับเรื่องร้องทุกข์ ร้องเรียน ตลอดจนการรวบรวมผลการดำเนินงาน ส่งต่อข้อมูลแก่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหา โดยการดำเนินงานที่ผ่านมา สพฐ. ได้สร้างโปรแกรมออนไลน์ เพื่อสำรวจข้อมูลวิเคราะห์จัดกลุ่มสถานภาพทางการเงิน โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1) สีแดง ถูกฟ้องดำเนินคดีเรื่องหนี้สินทุกกรณี 2) สีส้ม เงินคงเหลือน้อยกว่า 30% และยังไม่ถูกฟ้อง 3) สีเหลือง มีหนี้สินและเงินคงเหลือน้อยกว่า 30% และ 4) สีเขียว ครูและบุคลากรไม่มีหนี้ ปรากฎว่าผลของการสำรวจสถานภาพทางการเงิน มีบุคลากรที่ลงทะเบียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) จำนวน 533,124 คน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) จำนวน 154,097 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 687,221 คน โดยจำแนกข้อมูลสถานะทางการเงินได้ ดังนี้ 1) สีแดง จำนวน 2,864 คน 2) สีส้ม จำนวน 108,540 คน 3) สีเหลือง จำนวน 485,009 คน และ 4) สีเขียว จำนวน 90,808 คน

“ด้วยตัวเลขดังกล่าว สพฐ. จะนำไปดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูตามแนวทางที่กำหนดตามสถานภาพทางการเงิน โดยจะนำร่องในพื้นที่ที่มีกลุ่มเป้าหมายวิกฤตมากที่สุดเป็นลำดับแรก เพื่อใช้เป็นกรณีศึกษาและขยายผลไปยังพื้นที่อื่น โดยจะให้ความช่วยเหลือไกล่เกลี่ยระหว่างพิจารณาคดี/ชะลอการฟ้อง/ระหว่างเจ้าหนี้กับผู้ค้ำประกัน พร้อมทั้งพัฒนาความรู้เรื่องการเงิน จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และติดตามการดำเนินการในสถานีแก้หนี้ทุกพื้นที่ เพื่อให้การแก้หนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม สร้างความอุ่นใจให้ครูไทยทั่วประเทศกลับมายิ้มได้อีกครั้ง และทำหน้าที่จัดการเรียนการสอนได้อย่างเต็มศักยภาพต่อไป” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว